สาวเด็กปั๊มถูกรถชนแล้วหนี เลือดคลั่งในสมอง จำอะไรไม่ได้ แจ้ง ตร.บอกอีก 4 เดือนค่อยมาตามคดี ร้องศูนย์ดำรงธรรมก็ไม่รับเรื่อง วอนใครก็ได้ช่วยครอบครัวด้วย

วันที่ 4 พ.ค.64 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายธณัช เครือมา อดีต ส.อบจ.ขอนแก่น และผู้นำชุมชนบ้านโนนสะอาด ต.ป่าหวายนั่ง อ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น ว่ามีลูกบ้านถูกรถยนต์ชนได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส แต่ไม่มีความคืบหน้าทางคดี และคนขับที่ก่อเหตุไม่แสดงความรับผิดชอบ จึงขอให้สื่อมวลชนลงพื้นที่มาตรวจสอบข้อเท็จจริงและเป็นกระบอกเสียงช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน สะท้อนไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบได้เข้ามาช่วยเหลือชาวบ้านด้วย

เมื่อไปถึงที่บ้านเลขที่ 41 หมู่ 6 บ้านโนนสะอาด ต.ป่าหวายนั่ง อ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น พบกับ น.ส.เอิญกนก ดวงทองทิพย์ อายุ 19 ปี พนักงานหน้าลาน สถานีบริการน้ำมันชื่อดังแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ในสภาพบาดแผลเต็มร่างกายและสมองได้รับการกระทบกระเทือน พูดจาวกวนไปมาไม่ค่อยรู้เรื่อง โดยมี นางเพ็ญประภา ดวงทองทิพย์ ซึ่งเป็นแม่ และ นายบุญช่วย ดวงทองทิพย์ ผู้เป็นพ่อ และคนในครอบครัวคอยดูแลอยู่ไม่ห่าง

น.ส.เอิญกนก กล่าวว่า ตนเป็นพนักงานบริการลูกค้า หรือพนักงานหน้าลาน ของสถานีบริการน้ำมันชื่อดังแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนมะลิวรรณ บ้านหนองหลุบ ต.บ้านทุ่ม อ.เมือง จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 5 เม.ย.ที่ผ่านมา ขณะเลิกงานได้เดินมาไหว้ศาลพระภูมิซึ่งตั้งอยู่ติดกับร้านสะดวกซื้อ ด้านหน้าปั๊ม จากนั้นพบว่ามีสุนัขจำนวนมากเข้ามาในปั๊มและก่อกวนลูกค้า จึงได้เดินไล่สุนัขออกไป จากนั้นก็ไม่รู้เรื่องอะไรเลยจนกระทั่งมาฟื้นได้สติ ที่ รพ.ขอนแก่น และก็พบว่ามีบาดแผลตามร่างกาย

ซึ่งแพทย์บอกว่าถูกรถชน สมองได้รับการกระทบกระเทือนมีเลือดคลั่งในสมอง และได้ออกจาก ร.พ.ขอนแก่น รอบแรก เมื่อช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา แต่ก็มาพักอยู่บ้านได้ไม่นานก็มีอาการกำเริบ ปวดศีรษะอย่างมากจึงกลับไปที่โรงพยาบาลอีกหลายครั้ง ล่าสุดเพิ่งออกจาก โรงพยาบาลมาเมื่อวันที่ 3 พ.ค. แพทย์ระบุว่ามีเลือดออกใต้ชั้นเยื่อหุ้มสมองส่วนด้านซ้าย และให้หยุดงานเป็นเวลา 1 เดือน

“เหตุการณ์ต่างๆ นั้นหนูจำอะไรไม่ได้เลย วันนี้ต้องอยู่อย่างทุกข์ทรมาน เพราะเป็นพี่สาวคนโตของบ้าน หลังจบ ม.6 ก็มาทำงานที่ปั๊มน้ำมันแห่งนี้หาเลี้ยงครอบครัว พ่อและแม่รับจ้างทั่วไปหาเช้ากินค่ำ เงินเดือนที่ได้จากปั๊มเดือนละ 9,600 บาท ก็ต้องส่งไปให้กับน้องอีก 2 คนที่กำลังเรียนอยู่ที่ จ.อุดรธานี” น.ส.เอิญกนก กล่าว

ขณะที่ นายบุญช่วย พ่อของ น.ส.เอิญกนก กล่าวว่า ครอบครัวได้รับแจ้งเมื่อวันที่ 6 เม.ย.ว่าลูกสาวนั้นถูกรถชน จึงพากันเดินทางมาจาก จ.อุดรธานี ก็ต้องตกใจอย่างมากเพราะลูกอาการสาหัสและนอนไม่ได้สติอยู่ที่ รพ.ขอนแก่น เมื่อได้สติก็จำอะไรไม่ได้เลย จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.บ้านเป็ด โดยมีคลิปภาพ ของทางปั๊มที่บันทึกเหตุการณ์ทั้งหมด แต่จนถึงวันนี้คดีความก็ไม่คืบหน้า ถามตำรวจ ตำรวจก็บอกว่าค่อยมาตามคืบหน้ทางคดีอีก 4 เดือน และอ้างว่ากล้องวงจรปิดใกล้จุดทีเกิดเหตุเสียหาพยานหลักฐานไม่ได้

เข้าร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรมขอนแก่น ก็ไม่มีใครรับเรื่องแจ้ง เจ้าหน้าที่ก็ได้รับคำตอบว่าทุกคนทำงานอยู่ไม่มีคนมารับเรื่องได้ จึงตัดสินใจตามหาเบาะแสด้วยตนเอง ก็ทำเท่าที่ทำได้ของความเป็นชาวบ้านคนหนึ่ง เพื่อหวังขอความยุติธรรมให้กับลูกที่ต้องถูกกระทำ

“ครอบครัวหาเช้ากินค่ำ ลูกสาวคนโต หลังจบ ม.6 ก็มาทำงานที่ปั๊มแห่งนี้เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับครอบครัว และช่วยส่งเสียน้องอีก 2 คน โดยทำงานที่ปั๊มมาได้ 1 เดือน หลังเกิดเหตุโชคดีที่มีพลเมืองดีมาพบและแจ้งปั๊มได้ทราบและนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่หลังจากนั้นทุกอย่างก็เงียบหายไป เราก็สู้กันแบบวิถีคนบ้านนอกเท่าที่จะทำได้แต่คดีก็ไม่คืบเงินที่มีก็ถูกนำไปรักษาลูกสาวและใช้จ่ายต่างๆ จนหมดสิ้นแล้ว ซึ่งหวังเพียงคนขับรถตามภาพที่ปรากฎในคลิปภาพที่มีอยู่หรือคนที่เห็นเหตุการณ์หรือคนในครอบครัวของคนขับรถคันที่ก่อเหตุได้มาช่วยเหลือลูกสาวบ้าง” นายบุญช่วย กล่าว

นายบุญช่วย กล่าวต่อว่า ทางคดีความก็ต้องรอให้เจ้าหน้าที่ทำงานไป เราคนบ้านนอกคงไม่รู้จะพึ่งใครก็ได้แต่แจ้งผู้นำชุมชน เพื่อบอกเรื่องที่เกิดขึ้น โชคดีวันนี้ที่สื่อมวลชนที่ทราบเรื่องได้ลงพื้นที่มารับรู้ข้อเท็จจริงเพื่อช่วยเป็นกระบอกเสียงส่งถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้หันมาดูแลคนบ้านนอกในแถบชานเมือง โดยเฉพาะคนที่ก่อเหตุได้มาแสดงความรับผิดชอบหรือส่งความปราถนาดี หรือการช่วยเหลือหรือเบิกค่าใช้จ่ายจากประกันรถคันที่ขับชนก็ยังดี เพราะทุกวันนี้ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใครแล้ว ใครไม่เจอกับตัวเองแบบนี้จะไม่รู้ว่าลำบากแค่ไหน จึงขอความเป็นธรรมจากทุกฝ่ายได้ช่วยเหลือครอบครัวของตนด้วย

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน