พายุเข้ากลางดึก หอบคลื่นทะเลสูง ซัดใส่บ้านเรือนประชาชน พังราบเป็นหน้ากลอง เรือประมง อับปางหลายลำ มูลค่าเสียหายร่วม 2 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 6 พ.ค. 2564 ที่ชุมชนบ้านหินบ๋าย ต.แหลมงอบ อ.แหลมงอบ จ.ตราด นายศักรินรักสนิท เจ้าของบ้านเลขที่ 195/10 และชาวบ้าน 8 คน กำลังเร่งเก็บทรัพย์สิน ข้าวของเครื่องใช้ และซากไม้ หลังคา หลังถูกลมพายุพัดถล่ม คลื่นทะเลสูงกว่า 2 เมตร ซัดบ้านจนได้รับความเสียหายทั้งหลัง และยังมีบ้านเรือนอีกหลายหลังคาเรือนได้รับความเสียหายอีก 7 หลังคาเรือน
นายศักริน เจ้าของบ้าน เปิดเผยว่า ระหว่างเกิดคลื่นลมทะเลได้ออกไปทำประมงที่ช่องช้าง อยู่ระหว่างฝั่งอ.แหลมงอบ กับฝั่งอ.เกาะช้าง และเพื่อนแจ้งว่าบ้านถูกพายุและคลื่นทะเลซัดพังทั้งหลัง จึงนำเรือประมงกลับมาและพบว่าบ้านพังทั้งหมด ทรัพย์สินที่มีอยู่เสียหายชนิดที่ต้องเริ่มจากศูนย์ใหม่อีกครั้ง ซึ่งน่าจะมีมูลค่ากว่า 3-4 แสนบาท
ที่สะพานท่าเทียบเรือเพื่อการประมงอ.แหลมงอบ พบเรือประมงปั่นไฟขนาดความยาว 21 วา เทียบท่าอยู่ถูกคลื่นทะเลซัดกระแทกกับท่าเทียบเรือจนด้านท้ายเรือแตก และน้ำเข้าท้องเรือ ทำลายระบบไฟฟ้าทั้งหมดและเครื่องได้รับเสียหาย คาดว่าต้องใช้เวลากว่า 2 เดือน จึงซ่อมแซมมาใช้ทำประมงได้ และเสียหายกว่า 1 ล้านบาท
นายวิชัย ผากำเนิด เจ้าของเรือประมง เปิดเผยว่า หลังเที่ยงคืนมีพายุพัดเข้าหาฝั่งและเกิดคลื่นทะเลขนาดใหญ่ที่สูงถึงระดับเดียวกับสะพานซัดเข้ามา ทำให้เรือประมงกระแทกกับท่าเทียบเรือได้รับความเสียหายที่ท้ายเรือ และเรือประมงอีกลำก็ได้รับความเสียหาย เป็นเสาในเรืออีก 20 กว่าอัน ซึ่งมีมูลค่าความเสียหายกว่า 1 ล้านบาท
ส่วนที่ท่าเรือวสันต์ บ้านแหลมอวน ต.คลองใหญ่ อ.แหลมงอบ เรือประมง (เรือไดฟ์) จำนวน 3 ลำ ได้รับความเสียหายจากพายุเช่นกัน ซึ่งทั้งสามลำอยู่ระหว่างการกู้เรือขึ้นมา และประมาณค่าเสียหายไว้กว่า 5 แสนบาท
ด้านนายชัยพฤกษ์ สนธิศิริ นายกเทศบาลต.แหลมงอบ และเจ้าหน้าป้องกันสาธารณภัย เดินทางเข้าตรวจสภาพความเสียหาย พร้อมแจ้งว่าจะใช้งบประมาณของทางปภ.ตราด ช่วยเหลือซ่อมแซมบ้านเรือนของประชาชนในเบี้องต้นจำนวน 49,500 บาท นอกจากนี้ทางเทศบาลแหลมงอบจะนำถุงยังชีพ และวัสดุอื่น ๆ มาช่วยเหลือด้วย
