เมื่อเวลา 04.00 น. วันที่ 20 พ.ย. พ.ต.ต.กฤตชัย อาชาวสกุล สว.(สอบสวน) สภ.เมืองสมุทรสาคร รับแจ้งมีเหตุรถเก๋งชนกับรถโม่ปูน บนถ.พระราม 2 หลักกิโลเมตรที่ 22+700 ช่องทางด่วน ขาออกกรุงเทพฯ ม.6 ต.นาดี อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ห่างจากหน่วยบริการตำรวจทางหลวงสมุทรสาครมาประมาณ 300 เมตร จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิการกุศลสมุทรสาคร และทีมแพทย์หน่วยกู้ชีพโรงพยาบาลสมุทรสาคร
ที่เกิดเหตุพบรถเก๋ง ยี่ห้อซูซูกิ รุ่นเซียส สีขาว ทะเบียน 6กจ6881 กรุงเทพฯ สภาพด้านหน้ารถฝั่งขวาถูกชนอย่างแรงจนพังยุบเข้ามาเกือบครึ่งคัน ส่วนผู้บาดเจ็บ 2 คน คือ นางสุวรรณา ลิ้มสกุล อายุ 61 ปี ที่อยู่ตามบัตรประชาชน 19/1 ม.7 ต.บางพรม อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม เป็นคนนั่งข้างคนขับ มีบาดแผลศีรษะแตก โดยสามารถเปิดประตูรถออกมาได้ก่อน ส่วนผู้ที่ติดภายในรถบาดเจ็บสาหัส คือ นายนพรัตน์ โสภณศิริ อายุ 38 ปี ลูกชายของนางสุวรรณา และเป็นคนขับรถ ถูกอัดติดอยู่กับที่เบาะรถ เจ้าหน้าที่ต้องนำเครื่องตัดถ่างเข้าช่วยเหลือนานเกือบครึ่งชั่วโมง จึงจะสามารถนำผู้บาดเจ็บออกมาได้ และเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลสมุทรสาคร
ห่างจากรถเก๋งเล็กน้อยพบรถโม่ปูนขนาดใหญ่ 20 ล้อ ทะเบียน 70–1668 ลพบุรี จอดอยู่ฝั่งซ้ายข้างทางบนช่องทางด่วน สภาพหน้ารถและด้านข้างฝั่งขวามีรอยถูกเฉี่ยวชนจนไฟแตกและพังเสียหายเล็กน้อย คนขับชื่อนายจำลอง บุญโท อายุ 31 ปี บ้านเลขที่ 33/1 ม.8 ต.ชิงโค อ.สิงหนคร จ.สงขลา ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
นายจำลอง กล่าวว่า ตนขับรถมาเรื่อย ๆ ฝั่งซ้ายสุดบนช่องทางด่วน เพราะมีฝนตกลงมาถนนลื่นจึงไม่สามารถใช้ความเร็วได้ แต่เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ ก็เห็นรถเก๋งคันดังกล่าวที่ขับอยู่ข้างหน้าฝั่งขวา เกิดเสียหลักหมุนหลายรอบแล้วก็เหวี่ยงมาชนกับรถของตนที่ขับอยู่ทางฝั่งซ้าย ทำให้คนขับบาดเจ็บสาหัสดังกล่าว
ด้าน นางสุวรรณา กล่าวว่า ตนกับลูกชายกำลังจะขับรถกลับบ้านที่จ.สมุทรสงคราม หลังจากที่ไปส่งญาติที่จ.พิจิตร แต่ยังไม่ทันถึงบ้านก็มาเกิดอุบัติเหตุดังกล่าวก่อน
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวคนขับรถปูนไปสอบปากคำเพิ่มเติม และจะได้มีการสอบปากคำผู้บาดเจ็บทั้งสองคน อีกทั้งจะหาภาพจากกล้องวงจรปิดบนถนน เพื่อตรวจสอบลักษณะของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ก่อนที่จะมีการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
