ทะลักเข้าไม่หยุด! เจออีกครึ่งร้อยชาย-หญิง หลบเข้าช่องทางธรรมชาติ เจ้าหน้าที่รู้ทัน สกัดได้กลางป่า ระบุ ติดต่อผ่านนายหน้า นัดรวมตัวกันก่อนเดินเท้าจากฝั่งพม่ามา 2 วัน 2 คืน ถ้ารอดไปได้มีเป้าทั้งที่มหาชัย หัวหิน กระบี่ กรุงเทพฯ

วันที่ 13 พ.ค.2564 พ.อ.พรรณศักย์ เพรียวพานิช รองผบ.หน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก กองกำลังสุรสีห์ รับแจ้งจะมีการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองบริเวณช่องทางธรรมชาติทางทิศเหนือของช่องทางวังเป้า หมู่ 12 บ้านน้ำโจน ต.อ่าวน้อย อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ใกล้แนวเทือกเขาตะนาวศรี จึงส่งกำลังทหาร ชุดเฉพาะกิจจงอางศึก ร่วมกับตำรวจ ร้อย.ตชด.146 ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจ สภ.อ่าวน้อย ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ เข้าตรวจสอบตามพิกัดที่ได้รับแจ้ง

จากการตรวจสอบ พบผู้ลักลอบหลบหนีเข้าเมืองชาย-หญิงจำนวนมาก พร้อมกระเป๋าสัมภาระ หลบซ่อนอยู่บริเวณช่องทางธรรมชาติตามแนวชายแดนห่างจาก ช่องทางวังเป้าไปทางทิศเหนือ ประมาณ 8 ก.ม. จึงเข้าควบคุมตัวรวม 50 คน เป็นชาย 31 คน หญิง 19 คน ระบุ ทั้งหมดเดินทางมาจากเมาะลำใย ประเทศเมียนมา สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า 39 คนต้องการไปทำงานที่ อ.มหาชัย จ.สมุทรสาคร 4 คนจะไปทำงานย่านพระราม 9 กรุงเทพฯ อีก 4 คนไปทำงานที่หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ 2 คนไปจ.สุราษฎรานี และอีก 1 คน ไปจ.กระบี่

หนีเข้าเมือง

โดยติดต่อผ่านนายหน้าชาวเมียนมา นัดรวมตัวกันที่บ้านมูด่องห่างจากชายแดนด่านสิงขร ประมาณ 3 ก.ม.จากนั้นเดินเท้าเข้าป่ามาตามแนวเทือกเขาตะนาวศรี 2 วัน 2 คืน เมื่อหนีเข้ามาได้แล้วจะมีผู้นำพาชาวไทยขับรถกระบะมารับไปส่งตามพิกัดตามที่ตกลงกันไว้ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตรวจวัดอุณหภูมิขั้นต้นผลเป็นปกติ ก่อนส่งทั้งหมดเข้าสู่พื้นที่กักกันที่กองร้อย ตชด.146 เพื่อเฝ้าระวังการติดเชื้อโควิดและรอดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

หนีเข้าเมือง

ขณะที่เจ้าหน้าที่ ระบุ ปัญหาการลักลอบผ่านแดนของกลุ่มแรงงานเถื่อน ใช้เส้นทางธรรมชาติหลายเส้นทาง แต่ระยะหลังมักใช้เส้นทาง หมู่ 5 บ้านเนินแก้ว แต่ก็ถูกจับกุมบ่อยครั้งจึงเปลี่ยนเส้นทางมายังหมู่ 12 บ้านน้ำโจน แม้ว่าจะต้องเสียเวลาเดินเท้าเพิ่มอีกหลายชั่วโมงก็ตาม

หนีเข้าเมือง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน