เมื่อวันที่ 21 พ.ย. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองปทุมธานี รับแจ้งเหตุคนร้ายวิ่งราวทองคำจากร้านทองสุวรรณพัฒนา 2 เลขที่ 38 ต.บางปรอก อ.เมือง จ.ปทุมธานี ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนเข้าตลาดสดเทศบาลเมืองปทุมธานี ตรงข้ามสภ.เมืองปทุมธานี ห่างกันแค่ 50 เมตร เหตุเกิดเมื่อเวลา 17.00 น. ของวันที่ 20 พ.ย. ที่ผ่านมา
โดยมีน.ส.พิชญ์อาภา อินโพธิ์อายุ 24 ปี ลูกจ้างร้านทอง แจ้งว่าขณะที่ตนอยู่ที่ร้านทองสุวรรณพัฒนา 2 มีหญิงสาว 1 คน ทำทีเป็นลูกค้าเข้ามาเลือกซื้อทองคำ จากนั้นตนจึงนำสร้อยข้อมือทองคำน้ำหนัก 6 บาท จำนวน 1 เส้น สร้อยคอทองคำน้ำหนัก 3 บาทจำนวน 1 เส้น และสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 1 บาทจำนวน 1 เส้น รวมทองคำหนัก 10 บาท ค่ากว่า 2 แสนบาท วิ่งหลบหนีออกจากร้านไป โดยผู้เสียหายแจ้งความกับ พ.ต.ท.บรรจง หนูหว้า สารวัตรสอบสวน สภ. เมืองปทุมธานี หลังจากได้รับแจ้งเหตุแล้วเจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุมได้ดำเนินการสอบสวนติดตามคนร้ายทันที
หลังจากเกิดเหตุ เจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุมดำเนินการสอบสวนติดตามคนร้ายทันที โดยอาศัยเบาะแสจากบันทึกภาพกล้องวงจรปิดทำให้ทราบว่าคนร้ายเป็นคนทำงานที่ทำงานอยู่ที่ร้านปูอิฐพื้นทางเท้าริมถนนปทุมสามโคก ซึ่งมีที่พักคนงานอยู่ที่ห้องเช่าไม่มีเลขที่ใกล้เคียงอู่ซ่อมรถรัชนีออโต้คาร์ ซอยวัดดาวเรืองหมู่ 3 ตำบลบางพูน อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี จึงร่วมกันเดินทางไปตรวจสอบ
เมื่อเดินทางไปถึงพบน.ส.จอมใจ หรือเล็กปัดเพชร ลักษณะรูปพรรณ สัณฐานตรงกับคนร้ายที่ได้จากกล้องวงจรปิด พักอาศัยอยู่ในห้องเช่าดังกล่าว เจ้าพนักงานตำรวจแสดงตนเป็นเจ้าพนักงานตำรวจและขอตรวจค้นตัวและห้องเช่าดังกล่าว โดยก่อนการตรวจคนเจ้าพนักงานตำรวจแสดงความบริสุทธิ์ จนน.ส.จอมใจพอใจแล้ว ซึ่งยอมให้เจ้าพนักงานตำรวจค้น
ด้าน พ.ต.ท.สมยศ ดำจันทร์ รอง ผกก.สภ.เมืองปทุมธานี กล่าวว่า ผลการตรวจค้นปรากฏว่าพบสร้อยข้อมือทองคำน้ำหนัก 6 บาทจำนวน 1 เส้น อยู่ในกระเป๋ากางเกงที่แขวนอยู่ที่ราวตากผ้าภายในห้องเช่าดังกล่าวพบสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 1 บาทจำนวน 1 เส้น อยู่ในถาดวางสบู่ในห้องน้ำภายในห้องเช่าดังกล่าวพบสร้อยทองคำน้ำหนัก 3 บาทจำนวน 1 เส้นอยู่ที่หน้าอกของน.ส.จอมใจพบเสื้อคอวีสีเขียวอ่อนจำนวน 1 ตัว และกางเกงกีฬาขายาวสีน้ำเงินจำนวน 1 ตัว ลักษณะตรงกับเสื้อผ้าที่คนร้ายสวมใส่ขณะก่อเหตุตากอยู่ที่เราตากผ้าในห้องเช่าดังกล่าว
เจ้าพนักงานตำรวจสอบถามน.ส.จอมใจเกี่ยวกับของกลางที่ตรวจค้นพบ น.ส.จอมใจยอมรับว่า ตนก่อเหตุวิ่งราวสร้อยข้อมือทองคำและของกลางจากร้านทองสุวรรณพัฒนา 2 จริง โดยขณะก่อเหตุสวมเสื้อสีเขียวอ่อนและกางเกงกีฬาสีน้ำเงิน ตนมีอาชีพรับจ้างทำงานปู อิฐ เท้าริมถนนปทุมสามโคก ฐานะยากจนมีบุตร 4 คน เงินไม่พอใช้ จึงมาก่อเหตุดังกล่าว หลังก่อเหตุแล้ววิ่งหนีออกจากร้านมาขึ้นรถจักรยานยนต์รับจ้างข้างที่ว่าการอำเภอเมือง เพื่อไปลงที่หน้าบริษัท ดาวปทุมศูนย์ล้อ ถ.ปทุมสามโคก ต.บางปรอก อ.เมือง จากนั้นขึ้นรถกระบะของนายจ้างเดินทางกลับมายังห้องเช่า ก่อนถูกจับกุม เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อหา และนำตัวส่งสภ.ปทุมธานีและดำเนินคดีต่อไป
