เมื่อวันที่ 21 ต.ค. นายนพฤทธิ์ ศิริโกศล นายอำเภอเชียงคำ จ.พะเยา กล่าวว่า ทางอำเภอได้สำรวจข้อมูลซึ่งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงเสด็จประพาส อ.เชียงคำ จ.พะเยา เมื่อครั้งในอดีต จำนวน 11 ครั้ง ในแต่ละครั้งมีพสกนิกรในพื้นที่มีโอกาสเข้าเฝ้าฯพระองค์ท่าน และถวายสิ่งของต่างๆ มากมาย ซึ่งขณะนี้พบว่ามีประชาชนเข้าเฝ้าฯรับเสด็จฯเมื่อครั้งเสด็จพื้นที่ ต.ร่มเย็น และ ต.แม่ลาว อ.เชียงคำ จำนวน 5 ราย พร้อมด้วยภาพถ่ายที่มีเจ้าหน้าที่ทหารได้บันทึกภาพ และประชาชนผู้ที่เข้าเฝ้าได้เก็บรักษาไว้ในครอบครัวเป็นอย่างดี มีโอกาสนำมาเปิดเผยขณะที่ได้เดินทางมาลงนามถวายความอาลัยต่อพระองค์ ณ ที่ว่าการอำเภอเชียงคำ ครั้งนี้ด้วย

201610211457052-20021028190454

นายแคะเว่น ศรีสมบัติ อดีตข้าราชการครู และปราชญ์ท้องถิ่นชนเผ่าเมี่ยน อ.เชียงคำ จ.พะเยา เปิดเผยว่า ตนและพสกนิกรชาวเย้าหรือเมี่ยนได้มีโอกาสเข้าเฝ้าฯรับเสด็จฯพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เมื่อปี พ.ศ.2516 ทรงเสด็จที่บ้านใหม่ร่มเย็น ต.ร่มเย็น อ.เชียงคำ จ.พะเยา ซึ่งครั้งนั้นในอดีตเหตุการณ์บ้านเมืองค่อนข้างน่าห่วง เนื่องจากพื้นที่ อ.เชียงคำ ขึ้นตรงกับ จ.เชียงราย ขณะนั้น เป็นพื้นที่เป้าหมายของกลุ่มผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ ใช้เป็นพื้นที่ในการปฏิบัติการ ทางการมองว่าชาวเขาคือคอมมิวนิสต์ แม้นว่าชาวเย้าจะไม่เป็นคอมมิวนิสต์ แต่เมื่อทราบดังนั้นตนจึงเชิญชวนพี่น้องเย้ารวมตัวกันประมาณ 150 คน ออกมาเฝ้าฯรับเสด็จฯซึ่งก่อนพระองค์จะเสด็จฯมา ตนนำผ้าขาวขนาดใหญ่ไปแจกจ่ายทุกหมู่บ้านปักข้อความว่า “ชาวเย้าขอถวายความจงรักภักดีไม่เป็นคอมมิวนิสต์” และนำถวายในวันที่พระองค์ท่านเสด็จมา

201610211457051-20021028190454

“หากไม่มีพระองค์ท่านแผ่นดินเชียงคำ คงจะไม่มีวันนี้ พสกนิกรทุกหมู่เหล่า ไม่เลือกเชื้อชาติ ศาสนา พระองค์ทรงใช้พระคุณโอบอุ้มพสกนิกรของพระองค์ท่าน ด้วยน้ำพระทัยที่เปี่ยมด้วยพระเมตตา พวกกระผมจึงรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้จนถึงทุกวันนี้ ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป” นายแคะเว่น กล่าว

201610211547364-20021028190454

ด้านนายฟู พากเพียร อายุ 82 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4 หมู่ 13 ต.แม่ลาว อ.เชียงคำ จ.พะเยา กล่าวว่า ตนมีโอกาสเข้าเฝ้าฯรับเสด็จฯในปี 2514 ครั้งนั้นพระองค์เสด็จฯไปทรงเยี่ยมทหารที่โรงเรียนบ้านน้ำมิน แต่ตนและประชาชนที่รอรับเสด็จ ณ วัดพระธาตุเสด็จ ซึ่งต่อมาได้ก่อสร้างพระธาตุครอบรอยพระบาทของพระองค์ท่านไว้ จนถึงทุกวันนี้ ในการเฝ้ารับเสด็จฯขณะนั้นตนได้รับการประสานงานจากเจ้าหน้าที่ทหาร เนื่องจากตนได้ขุดพบก้อนหินขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นเงินน้ำหนักประมาณ 4-5 ขีด ตนได้ถวายใส่พระบาทของพระองค์ท่านอย่างมิลืม ภาพในการเฝ้ารับเสด็จครั้งนั้นลูกหลานของตนได้ขยายใหญ่ติดไว้ในบ้านให้ลูกหลานได้เห็นและนำแบบอย่างคำสอนของพระองค์ท่านมาเป็นแนวทางการดำเนินชีวิตตราบทุกวันนี้

“ในวันที่รู้ว่าพระองค์ท่านเสด็จสวรรคต ไม่รู้ว่าน้ำตามาจากไหนไหลไม่หยุด คอตันแทบหายใจไม่ออก ความรู้สึกบอกไม่ถูก (น้ำตาซึม) พวกเรารักพระองค์ท่านไม่รู้จะเปรียบเช่นไร ยิ่งได้เห็นพระองค์ท่านในพระบรมฉายาลักษณ์ ก็ให้ตื้นตันใจตลอดเวลา พระองค์คือเทวดาของพวกเรา” นายฟู กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน