2 รพ.สุพรรณ แจงพ่อ-แม่ กล่าวหารพ.ทำศพลูกหลาย หลังมาคลอดแล้วเด็กเสียชีวิต โต้กลับไม่พบหลักฐานฝากครรภ์ คลอดลูกแฝด อีกทั้งช่วงโควิดห้องคลอดปิด ผอ.ห่วงถ้าป่วยจิตก็รีบไปรักษา เตรียมฟ้องกลับแจ้งเท็จ ทำรพ.เสียหาย
วันที่ 21 พ.ค.2564 จากกรณีเกิดกระแสดราม่าครอบครัว อ้างเปิดโลงเจอแต่เสื้อผ้าเด็ก แต่ร่างของลูกหายไป ทำให้ออกมาร้องเรียนถึงเรื่องดังกล่าว แต่แพทย์ออกมาแย้งว่า ขอให้รอผลการแถลงก่อน เนื่องจากผลการตั้งครรภ์เป็นลบ และไม่พบประวัติการคลอดของสาวรายนี้แต่อย่างใดนั้น
ล่าสุดเรื่องนี้ ที่รพ.เจ้าพระยายมราช จ.สุพรรณบุรี นายนพฤทธิ์ ศิริโกศล รองผวจ.สุพรรณบุรี นพ.พงษ์นรินทร์ ชาติรังสรรค์ ผอ.รพ.เจ้าพระยายมราช นพ.อนุพันธ์ หวลบุตตา รองผอ.ฝ่ายการแพทย์ และ ทีมแพทย์ พยาบาล ทั้งรพ. เจ้าพระยายมราช และ รพ.บางปลาม้า ร่วมแถลงชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
นพ.อนุพันธ์ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบประวัติการเข้าการรักษาและคลอดลูก ที่ รพ.บางปลาม้า พบว่า วันที่ 10 พ.ค.ที่ผ่านมา ผู้หญิงที่อ้างเป็นแม่เด็ก ได้เดินทางมารักษาที่รพ.บางปลาม้า ด้วยอาการปวดท้อง ตกขาว และกระดูกอุ้งเชิงกรานอักเสบ แต่ไม่มีประวัติการฝากท้องและมาคลอดบุตรแฝด วันที่ 11 พ.ค.ที่แจ้งว่าไปคลอดลูก ในวันนั้นก็ไม่การทำคลอด และไม่มีเอกสารการติดต่อ ส่งตัวเด็กมารักษาต่อที่รพ.เจ้าพระยายมราช และที่รพ.เจ้าพระยายมราช ก็ไม่มีการรับรักษาเด็ก หากการที่แม่กล่าวอ้างเด็กตายมารับศพที่ชั้น 3 ก็ไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะตามระเบียบต้องมารับศพที่ห้องปลายฟ้า
” ซึ่งก็ไม่พบการมารับศพแต่อย่างใด รวมถึงภาพบางอย่างที่มีการกล่าวอ้าง พบว่าเป็นภาพที่มีในอินเตอร์เนตด้วย และการส่งตัวมารักษาต่อนั้นตามระเบียบต้องมีการส่งเอกสาร การตรวจของแพทย์จากรพ.ต้นทางมาให้ก่อน และก่อนมาก็ต้องมีการโทรผ่านระบบการส่งต่อเพื่อรพ.ปลายทางจะได้ประสานแพทย์ จากนั้นจึงจะแจ้งให้รพ.ต้นทางนำรถรพ.มาส่ง โดยต้องมี ญาติมาด้วย ในเหตุฉุกเฉิน และก็จะมาการลงบันทึกในระบบเวชทะเบียนเพื่อบันทึกหลักฐานเก็บไว้”
ด้านนพ.วรท สัตยาวุฒิพงศ์ แพทย์รพ.บางปลาม้า ระบุว่า ยืนยันว่าผู้หญิงที่อ้างเป็นแม่เด็ก เข้ามารักษาตัวที่รพ.บางปลาม้าจริงในวันที่10 พ.ค.ที่ผ่านมา แต่เป็นการรักษาอาการติดเชื้อในท่อปัสสาวะ หรืออาการ ตกขาว และอาการอุ้งเชิงกรานอักเสบ จึงให้ยาฆ่าเชื้อพร้อมกับตรวจปัสสาวะว่ามีการตั้งครรภ์หรือไม่ ก็พบว่าไม่มีการตั้งครรภ์หรือคลอดบุตรมาก่อน จึงให้คนไข้กลับไปพักฟื้นที่บ้าน
” จากนั้นวันที่ 11 พ.ค. หญิงคนดังกล่าวกลับมารพ.อีกด้วยอาการเดิม จึงให้แอดมิดนอนรพ.เพื่อดูอาการจนถึงวันที่ 14 พ.ค. ก็ให้กลับบ้านไป ยืนยันว่าไม่มีการฝากครรภ์ หรือ คลอดที่รพ.แห่งนี้ ประกอบกับช่วงนี้สถานการณ์โควิดห้องคลอดรพ.ปิด และถ้าเป็นครรภ์แฝดทาง รพ.บางปลาม้า เป็นเพียงรพ.ศูนย์จะไม่รับคลอดครรภ์แฝด ตรงกับข้อมูลของรพ.เจ้าพระยายมราช ที่ไม่พบการส่งต่อผู้ป่วยและเด็กแรกคลอดมาทำการรักษาที่รพ.ตั้งแต่วันที่ 11 พ.ค. และจากวงจรปิดก็ไม่พบว่ามีรถพยาบาลรพ.บางปลาม้าเข้ามาในรพ.แต่อย่างใด ”
ขณะที่ จนท.ฝ่ายประชาสัมพันธ์ รพ.เจ้าพระยายมราช ชี้แจงว่า ที่พ่อแม่เด็กอ้างว่าได้มีเจ้าหน้าที่ของรพ.โทรศัพท์ติดต่อให้มารับศพนั้นทางรพ.ได้นำเบอร์ดังกล่าวมาตรวจสอบ พร้อมโทรศัพท์กลับไปพบว่า เบอร์หนึ่งเป็น ของบริษัท (ทีโอที) ส่วนอีกเบอร์ซึ่งเป็นเบอร์มือถือ ซึ่งพยายามติดต่อแต่ก็ไม่มีคนรับสาย ยืนยันว่าไม่ใช่เบอร์ รพ.แต่อย่างใด ตามหลักการในการรับศพจะไม่มีการโทรศัพท์แจ้งหลังผู้ป่วยเสียชีวิตแต่จะมีการแจ้งก่อนทุกครั้ง
” ขั้นตอนการรับศพนั้น ญาติผู้เสียชีวิตจะต้องเอาเอกสารมาส่งที่ห้องเก็บศพติดต่อรับศพ ไม่ได้ติดต่อที่แผนกเด็กทารกแรกเกิดตามที่แม่เด็กอ้าง จากการตรวจสอบวงจรปิดก็ไม่พบแม่เด็กขึ้นไปบนชั้น 3 ของรพ. แพทย์ที่รับผิดชอบก็ไม่พบเด็กแฝด ชายหญิงมานอนรักษาตัวที่แผนกตามที่ถูกกล่าวอ้าง ส่วนเรื่องการจ่ายเงิน 5 แสนบาทที่พ่อแม่เด็กกล่าวอ้างนั้นก็ไม่เป็นเรื่องจริง อีกทั้งทางรพ.ก็ไม่ได้ทำอะไรผิดเลย”
ส่วนผอ.รพ.เจ้าพระยายมราช เปิดเผยว่า ยังไม่เข้าใจเหตุผลว่าทั้งคู่ต้องการอะไรจากการเรียกร้อง ทีมแพทย์ พยาบาล เราทุกคนทำงานกันอย่างเต็มที่ ยิ่งในสถานการณ์แบบนี้ โควิด 19 เราต้องดูแลผู้ป่วย และ รพ.ก็มีหลักการในรับการรับดูแลผู้ป่วย มีการดำเนินการตามขั้นตอน อย่างดีในทุกระบบ มีจรรยาบรรณในวิชาชีพ กรณีนี้อาจเป็นกรณีที่เราไม่เข้าใจว่าต้องการอะไร
” หากมีอาการป่วยจิตเวชก็อยากรักษาอาการ โดยต้องมีการตรวจจากแพทย์เฉพาะทาง จากการกระทำดังกล่าวทำให้วิชาชีพแพทย์เสียหาย รพ.ก็เสียหาย ตอนนี้ก็ได้ให้ขวัญกำลังใจทีมแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ทุกคน ขณะนี้ให้ทางทีมกฎหมายของรพ. ได้ดำเนินการตาม พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ และ แจ้งความเท็จ ซึ่งจะดำเนินการต่อไป”
