รวบลุงวัย 66 เช้าแต่งเป็นพระ เย็นเปลี่ยนชุดฆราวาส เผยมีคนให้อาหาร ได้ลัดคิวตรวจ รพ. พบเคยทำมาแล้วครั้งหนึ่ง จนท.ตักเตือนก่อนปล่อยตัว แต่กลับมาทำซ้ำ คุมตัวดำเนินคดี

เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 21 พ.ค. 2564 ขณะ ร.ต.อ.วิฆเนศ ซื่อตรง รอง สวป.สภ.เมืองอุดรธานี นำกำลังออกตรวจในพื้นที่ ได้รับแจ้งพบชายแต่งกายเป็นพระภิกษุสงฆ์เดินไปมาและนั่งอยู่หน้าห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ในเขตเทศบาลนครอุดรธานี และจะเข้าไปเปลี่ยนเครื่องแบบพระในห้องน้ำ สวมเสื้อและกางเกง คาดว่าจะเป็นพระปลอม ขอให้ตำรวจไปตรวจสอบ

เมื่อ ร.ต.อ.วิฆเนศ นำกำลังถึงที่เกิดเหตุพบชายแต่งกายเป็นพระภิกษุ นั่งรออยู่ที่รถประจำทางหน้าห้างสรรพสินค้า จึงเข้าไปตรวจสอบทราบชื่อคือนายสิทธิโชค น้อยสุวรรณ อายุ 66 ปี ชาวบ้านหมู่ 1 ต.นาข่า อ.เมือง จ.อุดรธานี แต่เมื่อสอบถามหาใบสุทธิ นายสิทธิโชคไม่มีมาแสดง อ้างว่าบวชหน้าไฟ เมื่อถามว่าบวชที่ไหน ใครบวชให้ ก็ตอบไม่ได้ และแสดงอาการพูดจาโวยวาย ถามว่าตัวเองผิดอะไร เมื่อตรวจค้นในถุงพลาสติกมีแต่ของเก่าและแบตเตอรี่เก่า จึงนำตัวมาที่ สภ.เมืองอุดรธานี

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจให้นายสิทธิโชคถอดเครื่องแต่งกายพระภิกษุออก เปลี่ยนมาใส่เสื้อและกางเกง สอบสวนยอมรับสารภาพว่า ไม่ได้เป็นอุปสมบทเป็นพระสงฆ์จริง แต่นำเครื่องแบบพระสงฆ์มาใส่ เพราะต้องการจะได้สิทธิพิเศษลัดคิวในการเข้ารักษาที่โรงพยาบาล และมีคนนำอาหารมาให้ฉันเท่านั้น โดยช่วงเช้าจะสวมเสื้อกางเกงออกจากบ้าน มาเปลี่ยนเป็นเครื่องแบบพระสงฆ์ตามห้องน้ำสาธารณะหรือจุดลับตาคน เมื่อเปลี่ยนชุดพระเสร็จก็จะไปเดินตามตลาด และเดินทางไปโรงพยาบาล จะมีคนมาถวายอาหาร และได้ลัดคิวเข้าตรวจก่อน ช่วงค่ำก็เปลี่ยนชุดปกติแล้วกลับบ้าน ทำมาแล้วหลายครั้ง

ร.ต.อ.วิฆเนศ ซื่อตรง รองสวป.สภ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า เมื่อประมาณ 2 สัปดาห์ที่แล้ว มีประชาชนแจ้งว่ามีพระเข้าไปเปลี่ยนชุดในห้องน้ำศูนย์การค้าแห่งหนึ่ง จึงไปตรวจสอบพบนายสิทธิโชคอ้างว่าบวชหน้าไฟ ที่วัดแห่งหนึ่งใน ต.นาข่า อ.เมืองอุดรธานี ตำรวจได้ถ่ายรูป ทำประวัติ พร้อมว่ากล่าวตักเตือนว่าอย่าแต่งกายเลียนแบบพระสงฆ์อีก ถ้าทำอีกจะดำเนินคดี ซึ่งนายสิทธิโชครับปาก จึงปล่อยตัวไป แต่ครั้งนี้ก็ยังไปแต่งตัวเป็นพระอีก เมื่อสอบถามก็บอกว่าแต่งเป็นพระเพื่อไปหาหมอที่โรงพยาบาล เพื่อจะได้ลัดคิว และเดินในตลาด เพื่อจะได้สิ่งของและอาหาร จึงแจ้งข้อหาแต่งกายหรือใช้เครื่องหมาย เพื่อแสดงว่าเป็นพระภิกษุสงฆ์ เพื่อให้เชื่อว่าเป็นพระภิกษุสงฆ์ ส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน