เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ พร้อมของกลางมูลค่ากว่า 4.3 ล้านบาท พบประวัติเคยถูกจับกุมค้ายาบ้าและพ้นโทษมาได้ 2 ปี
วันที่ 31 พ.ค. 64 เจ้าหน้าที่ตำรวจจังหวัดเพชรบูรณ์ นำโดย พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน ผบก.ภ.จว.เพชรบูรณ์ สืบทราบมาว่ามีพ่อค้ายาบ้ารายใหญ่ในพื้นที่ อ.วังโป่ง มีพฤติกรรมนำยาบ้ามาจำหน่ายในพื้นที่ อ.วังโป่ง อ.ชนแดน และ อ.เมืองเพชรบูรณ์ จึงสั่งการให้ พ.ต.อ.ชัยยะ หนูคุ้มทรัพย์ ผกก.สืบสวน ภ.จว.เพชรบูรณ์ ลงพื้นที่จนพบว่า พ่อค้ายาบ้ารายดังกล่าวคือ นายภานุวัฒน์ จันทะกาว อายุ 37 ปี และได้นำยาเสพติดมาพักไว้ที่บ้าน ในพื้นที่ ต.ซับเปิบ อ.วังโป่ง จึงขอหมายค้นจากศาลจังหวัดเพชรบูรณ์
จากการตรวจค้นพบ นายภานุวัฒน์ และ น.ส.สุกัลยา อายุ 33 ปี ซึ่งเป็นภรรยาอยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าว พบยาบ้าอยู่ในกระเป๋าจำนวน 1,035 เม็ด ภายในบ้านพบยาบ้าซุกซ่อนอยู่ในเครื่องหยอดเมล็ดข้าวโพด 6,400 เม็ด ยาไอซ์ 195.15 กรัม และนอกจากนั้นยังพบยาบ้าฝังอยู่ในดินข้างกอไผ่ข้างบ้านอีกจำนวน 58,000 เม็ด
พร้อมกันนี้ได้ตรวจยึดปืนลูกซองยาวไม่มีทะเบียน 1 กระบอก พร้อมกระสุนปืน 10 นัด รถกระบะโตโยต้า 4 ประตู สีเทา ทะเบียน กฉ 3654 ตาก รถจยย. GPX สีแดง-ดำ ทะเบียน กฎ 5301 เพชรบูรณ์ โทรศัพท์ 3 เครื่อง สร้อยคอพร้อมพระเลี่ยมทอง 1 เส้น สมุดบัญชีธนาคาร รวมมูลค่าทั้งหมดประมาณ 4.3 ล้านบาท
สอบสวนเบื้องต้น นายภานุวัฒน์ ให้การรับสารภาพว่าไปรับยาบ้ามาจากพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี จากนั้นก็ได้นำมาซุกซ่อนไว้ตามจุดต่าง ๆ ในบริเวณบ้าน และจะนำไปขายในพื้นที่ อ.วังโป่ง อ.ชนแดน อ.เมืองเพชรบูรณ์ โดย ทำมาหลายครั้งแล้วแต่ก็ถูกจับได้ในที่สุด
ด้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจ เปิดเผยว่า เบื้องต้นสืบทราบมาว่าล็อตนี้ นายภานุวัฒน์ นำยาบ้ามาประมาณ 1 แสนเม็ด แต่คาดว่าน่าจะมีการจำหน่ายให้กับลูกค้าไปแล้วส่วนหนึ่ง อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สอบสวนเส้นทางการเงิน เพื่อนำตัวผู้ร่วมขบวนการมาลงโทษตามกฎหมาย
สำหรับ นายภานุวัฒน์ เคยถูกตำรวจ สภ.วังโป่ง จับกุมในข้อหาเสพและจำหน่ายยาบ้าเมื่อหลายปีก่อน เพิ่งจะพ้นโทษออกมาได้ประมาณ 2 ปี จึงได้แจ้งข้อหาร่วมกันมายาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้าและยาไอซ์)ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยนายบอยได้ให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา
ส่วนน.ส.สุกัลยา ให้การปฏิเสธ และนอกจากนั้นยังได้แจ้งข้อหา นายภานุวัฒน์อีก 1 ข้อหาคือ เสพยาเสพติดประเภท 1 โดยผิดกฎหมาย ซึ่งผู้ต้องหาได้รับสารภาพเช่นเดียวกัน จากนั้นจึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
