สำนักงานยุติธรรมจังหวัดมุกดาหารเตรียมลงพื้นที่ติดตามเรื่องกับพนักงานสอบสวน เพื่อช่วยเหลือ แจ้งสิทธิเยียวยาครอบครัวน้องชมพู่

จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าทำการจับกุมตัว นายไชย์พล วิภา หรือลุงพล ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดมุกดาหาร ในข้อหาพรากเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปี ไปเสียจากบิดามารดา โดยปราศจากเหตุอันควร, ทอดทิ้งเด็กอายุไม่เกิน 9 ปี เพื่อให้เด็กนั้นพ้นไปเสียจากตน โดยประการที่ทำให้เด็กนั้นปราศจากผู้ดูแล เป็นเหตุให้เด็กถึงแก่ความตาย และกระทำการใดๆ แก่ศพหรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพ ก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น ในประการที่น่าจะทำให้การชันสูตรพลิกศพหรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป ต่อมาสื่อมวลชนอาจเข้าใจคลาดเคลื่อนว่าเป็นการจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ หรือรับมอบตัว นั้น

เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.64 นายเรืองศักดิ์ สุวารี อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าว กระทรวงยุติธรรม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม แสดงความห่วงใยและติดตามอย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด ทราบว่ากรณีนี้ ทางสำนักงานยุติธรรมจังหวัดมุกดาหาร ลงพื้นที่และรับคำขอเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ตั้งแต่ช่วงเกิดเหตุ เมื่อวันที่ 15 พ.ค.63 พร้อมทั้งประสานติดตามผลการสืบสวนจากพนักงานสอบสวน ที่สถานีตำรวจภูธรกกตูมและผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร ซึ่งได้รับแจ้ง ณ ขณะนั้น ว่าอยู่ระหว่างการดำเนินการสืบสวนสอบสวนเพราะไม่ทราบแน่ชัด ว่าสาเหตุการตายเกิดจากอะไร จึงยังไม่สามารถที่จะแจ้งความคืบหน้าของคดี ณ เวลานั้นได้ จนกระทั่งมีข่าวล่าสุดว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายจับผู้ต้องสงสัยในคดีนี้แล้ว ซึ่งในวันที่ 4 มิ.ย.64 สำนักงานยุติธรรมจังหวัดมุกดาหาร จะลงพื้นที่ติดตามเรื่องกับพนักงานสอบสวน

นายเรืองศักดิ์ กล่าวต่อว่า กรณีผู้เสียหายในคดีอาญา หากถูกผู้อื่น กระทำให้เสียชีวิตโดยที่ตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำความผิด ทายาทมีสิทธิได้รับการช่วยเหลือเยียวยาในฐานะที่ตกเป็นเหยื่อ ได้แก่ (1) ค่าตอบแทนกรณีถึงแก่ความตาย จำนวน 50,000 บาท (2) ค่าจัดการศพ จำนวน 20,000 บาท (3) ค่าขาดอุปการะเลี้ยงดู จำนวน 40,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิน 110,000 บาท ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของคณะอนุกรรมการฯ ประจำจังหวัดมุกดาหารเป็นสำคัญ

“กระทรวงยุติธรรม โดยกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ พร้อมให้ความช่วยเหลือเยียวยาประชาชนที่ตกเป็นเหยื่อ หรือผู้เสียหายในคดีอาญา เพื่ออำนวยความยุติธรรม ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเป็นธรรมให้เกิดขึ้นกับสังคมไทย โดยสามารถติดต่อขอรับความช่วยเหลือได้ที่ ส่วนกลาง (กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ) และ ส่วนภูมิภาค (สำนักงานยุติธรรมจังหวัด ทุกแห่งทั่วประเทศ) หรือ ติดต่อที่ สายด่วนยุติธรรม โทร. 1111 กด 77″นายเรืองศักดิ์ กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน