จับ 2 พนักงานสาวร้านทองสุดแสบ สร้างเรื่องมีคนมาจำนำทอง เชิดเงินสูญกว่า 3 ล้านบาท ก่อนนำทองปลอมส่ห่อเก็บไว้ในตู้ตบตาเจ้าของร้าน

เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. 2564 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า ที่ร้านทองบูรพาสาขา 3 ตั้งอยู่สี่แยกหัวถนนคิวรถเมล์นคร-ทุ่งสง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช มีพนักงานหญิง 2 คน สร้างเรื่องว่ามีลูกค้ามาจำนำทอง และเบิกเงินจากร้านไปกว่า 3 ล้านบาท ก่อนนำทองปลอมใส่ถุงรับจำนำไว้ตบตาเจ้าของร้าน

นางอังคณา บุญสัมพันธ์กิจ เจ้าของร้านทองบูรพาสาขา 3 เปิดเผยว่า รู้สึกผิดสังเกตในช่วงหลังๆ ว่า ทำไมมีการนำทองมาจำนำเป็นจำนวนมาก โดยปกติจะมีการสำรองเงินรับจำนำทองไว้ที่ 3 ล้านบาท แต่ช่วงหลังเงินไม่เพียงพอต้องเอาเงินจากทางร้านมาเพิ่ม จึงมีการตรวจสอบทองที่ลูกจ้างทั้ง 2 คนรับจำนำมาก็พบว่าเป็นทองปลอม

นางอังคณา บุญสัมพันธ์กิจ เจ้าของร้าน

นางอังคณา กล่าวต่อว่า พนักงานทั้ง 2 คนได้สร้างเรื่องขึ้นมาว่ามีคนมาจำนำทอง แล้วเอาทองปลอมมาห่อใส่ในลิ้นชักที่เก็บของรับจำนำ และเบิกเงินจากทางร้านเอาไปจ่ายค่ารับจำนำทั้งหมด 86 รายการ คิดเป็นมูลค่ากว่า 3 ล้านบาท โดยทำมาเกือบ 2 ปี ตนจึงเข้าแจ้งความกับ สภ.ชะเมา และมีการจับกุมพนักงานทั้ง 2 คนไปสอบปากคำแล้ว และรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ซึ่ง 1 ใน 2 ลูกจ้างนั้นกำลังตั้งท้องและขอชดใช้เพื่อจะได้ผ่อนโทษหนักเป็นเบา

นางอังคณา กล่าวอีกว่า สิ่งที่ร้านได้รับผลกระทบมากที่สุดนอกจากจากการทุจริตของพนักงาน คือมีการนำเสนอข่าวของสื่อหลักรายหนึ่งว่าทองที่โชว์หน้าร้านเป็นทองปลอม ซึ่งเป็นข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง ทองที่โชว์หน้าร้านเป็นทองแท้และทองจริง ไม่เกี่ยวกับกับทองปลอมที่พนักงานสร้างเรื่องขึ้นมา ซึ่งร้านเปิดขายทองมากว่า 40 ปี เราได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก

“ตลอดทั้งวันมีคนทยอยมาขอตรวจสอบทองบ้าง ขอคืนทองบ้าง เพราะไม่มั่นใจในทองของทางร้าน เรามีการประสานไปยังสื่อที่ออกข่าวให้แก้ข่าวให้ ไม่เช่นนั้นจะมีการฟ้องดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพราะไม่ตรวจสอบข้อมูลให้ชัดเจนก่อนจะนำเสนอข่าว” นางอังคณา กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย คือ น.ส.สรารัตน์ หนูสงค์ อายุ 31 ปี ชาว ต.ป่าระกำ อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช และน.ส.สุจิตรา เทียมเทพ อายุ 28 ปี ชาว ต.ปากพูน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งกำลังตั้งครรภ์ 6 เดือน ถูกแจ้งข้อหาเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว โดยการสอบสวนเบื้องต้นทั้ง 2 ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา นอกจากนี้ทางเจ้าของร้านทองดังกล่าวยังเตือนให้ผู้ประกอบการร้านอื่นๆ ตรวจสอบเกี่ยวกับกรณีนี้ด้วย เพราะไม่อยากให้เจอเหมือนกับตนเอง.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน