เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 23 พ.ย. ร.ต.อ.อำนาจ นิติลีลานนท์ ร้อยเวร สภ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ รับแจ้งเหตุฆาตกรรมข้าราชการครูบำนาญ ที่อาคารพาณิชย์ หน้าวัดพระพุทธบาทชนแดน (พระองค์ใหญ่) ห่างจากโรงพัก ประมาณ 300 เมตร และรายงานผู้บังคับบัญชา พ.ต.อ.ภูวภัทร สายเพ็ชร ผกก.สวส.กลุ่มงานสอบสวน รทท.ผกก.สภ.ชนแดน พ.ต.ท.บุญถึง เหมือนแสง รอง ผกก สวส.สภ.ชนแดน รุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเลขที่ 275/9 หมู่ 4 เทศบาลตำบลชนแดน ปลูกเป็นอาคารพาณิชย์ 2 ชั้นโดยชั้นล่างเปิดเป็นขายของเบ็ดเตล็ด เครื่องดื่มและผลไม้ อยู่ตรงข้ามหน้าวัดพระพุทธบาทชนแดน (หลวงพ่อทบองค์ใหญ่) ริมถนนลาดยาง ชมฐีรเวช ภายในบ้านพบศพนางลัดดา สิงห์เวียง อายุ 78 ปี ข้าราชการบำนาญ สวมเสื้อลายดอกแขนสามสวน กางเกงหม้อฮ่อมสีน้ำเงิน สวมรองเท้าแตะสีดำ นอนเสียชีวิต หงายหลังฟุบอยู่บนเก้าอี้ ใกล้โต๊ะบัญชี สภาพศพที่บริเวณคอด้านขวา ถูกของมีคมเชือดเป็นแนวยาวลึก เส้นเลือดใหญ่ ดำแดงขาด มีรอยเลือดหยดเป็นแนวยาว เจ้าหน้าที่จึงใช้เชือกล้อมไม่ให้คนเข้าไปบริเวณดังกล่าว และประสานไปยังเจ้าหน้าที่กองวิทยาการมาพิสูจน์หลักฐาน

ต่อมาพ.ต.อ.อารักษ์ อ่อนแย้ม รอง ผบก.ภจว. รักษาราชการแทน ผบก.ภจว.เพชรบูรณ์ และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน มายังที่เกิดเหตุ มาสั่งการร่วมสืบสวนสอบสวนหาหลักฐานสาเหตุของฆาตกรรมครั้งนี้และถือว่าเป็นคดีสะเทือนขวัญประชาชน โดยเจ้าหน้าที่ได้พบหลักฐาน มีดปลายแหลม ด้ามสีส้ม ยาวประมาณ 14 นิ้ว เปื้อนเลือด อยู่ในโต๊ะลิ้น จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

สอบสวน นางนิศา สิงห์เวียง อายุ 54 ปี จนท.เทศบาล ต.ท่าข้าม ลูกสาวผู้ตายที่ร้องไห้ด้วยอาการเสียใจ ใบหน้าซีดตกใจและหวาดผวา ให้การว่า มารดาผู้ตายเป็นข้าราชการครูบำนาญ ส่วนบิดา สามีผู้ตายคือ นายเกตุ สิงห์เวียง อายุ 79 ปี อดีตหัวหน้าการประถมศึกษาอำเภอ เป็นข้าราชการบำนาญเช่นกัน ปกติมารดาจะมีอาชีพเสริมขายของเบ็ดเตล็ดและเครื่องดื่ม จะอยู่คนเดียว

“ก่อนเกิดเหตุ ไม่มีใครอยู่บ้าน บิดาก็ไปฟอกไต ที่รพ.เพชรบูรณ์ พี่สาวก็เป็นข้าราชการครูไปสอนหนังสือ น้องชายอีกคนเป็นสัตว์แพทย์ก็ไปทำงาน ได้ข่าวว่ามีชาวบ้านพบศพเห็นคนแรก มาซื้อน้ำดื่มตะโกน เรียกยายๆ ซื้อน้ำดื่มหน่อย ไม่ขานรับ คิดว่าหลับไป เห็นรอยเลือด ตกใจจึงวิ่งไปบอกเจ๊ร้านอาหารป่า ซึ่งเป็นหลาน บ้านข้างกัน แล้วแจ้งเจ้าหน้าที่ดังกล่าว” นางนิศา กล่าว

แนวทางการสืบสวนสอบสวนของเจ้าเจ้าหน้าที่ ได้เบาะแสแล้ว โดยตรวจสอบจากกล้องวงจรปิด ซึ่งติดอยู่หลังที่ 4 ติดกัน พบว่าคนร้ายเป็นชายวัยรุ่น ขี่รถจักรยานยนต์สวมหมวกกันน็อค มาคนเดียว จอดหน้าร้านแล้วเดินลงไปก่อเหตุ ใช้เวลาเพียง 2-3 นาที อาจจะทำทีขอซื้อน้ำดื่ม แล้วข่มขู่ให้ผู้ตายบอกที่ซ่อนทรัพย์สินมีค่า เพราะกระเป๋าสตางค์ บัตรประจำตัว ข้าราชการและบัตรเอทีเอ็ม 2 ใบ ของธนาคารกรุงไทยและกรุงศรี ของผู้ตายหายไปด้วย โดยคนร้ายอาจข่มขู่ให้ผู้ตายบอกรหัสบัตร และผู้ตายอาจขัดขืน คนร้ายจึงใช้มีดปลายแหลมเชือดคอผู้ตายแล้วรีบเผ่นหนี มุ่งหน้าไปยังทิศตะวันตก ขณะนี้เจ้าที่ตำรวจกำลังไล่ล่าคนร้ายอยู่คาดว่าจะจับได้ในเร็วๆนี้ เพราะอาจจะเป็นคนในพื้นที่ ที่ติดยาเสพติดและรู้จักกับผู้ตายเป็นอย่างดี

ด้าน พ.อ.อ.อารักษ์ อ่อนแย้ม รองผบก.ภวจ.เพชรบูรณ์ ลงมาดูที่เกิดเหตุด้วยตนเอง มากำชับสั่งการให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตั้งหน่วยเฉพาะกิจ ติดตามจับคนร้ายที่ลงมือฆ่าโหดนางลัดดาให้ได้ เพราะคนร้ายลงมือโหดเหี้ยมในย่านชุมชน ห่างโรงพักประมาณ 300 เมตร โดยคนร้ายใช้จยย.เป็นพาหนะลงมือปาดคอ ใช้เวลาประมาณ 3 นาที

พ.ต.ท.จำลอง มีแสง รอง ผกก.สภ.ชนแดน กล่าวว่า ประเด็นสาเหตุนั้น มาจะมาจากสาเหตุเรื่องชิงทรัพย์และเรื่องการโกรธแค้นส่วนตัว ประเด็นลึกๆ คนร้ายน่าจะมีการวางแผนมาแยบยล กำลังสอบสวนประเด็นลึกๆ ว่าผู้ตายอาจมีปัญหาทะเลาะเบาะแว้งกับใคร คนใดคนหนึ่ง กำลังเรียกพยานใกล้ชิดมาสอบอยู่น่าจะจับคนร้ายได้ภายในเร็วๆนี้

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน