เจ้าหน้าที่บุกช่วยแมว เจ้าของขังลืม อยู่ในบ้านร้าง อดอาหารตายคากรงเพียบ สุดทรมาน มีเป็นร้อยตัว พบมีหลายหลัง ช่วยมาได้แล้วหนึ่ง เตรียมเข้าช่วยที่เหลือ

เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 14 มิ.ย.64 เจ้าหน้าที่อนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อม เชียงใหม่ และเจ้าหน้าที่องค์กรสิทธิสัตว์แห่งประเทศไทย กทม. ได้นำกรงสัตว์และอาหารสัตว์เม็ด เข้าช่วยเหลือแมวจำนวนมาก ที่เจ้าของขังไว้ไม่ได้กินอาหารในบ้านทาวน์เฮ้าส์ร้าง ภายในหมู่บ้านนฐดา ซอยรังสิต-นครนายก 60 ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี

จากการสอบบ้านหลังแรก เลขที่ 401 เป็นทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น หน้าบ้านมีกองขยะระเกระกะ ส่วนภายในบ้านชั้นล่างมีขยะเต็มไปหมด และพบกรงขังสัตว์จำนวนมาก วางซ้อนกันอยู่ พบซากแมวแห้งตายหลายสิบตัว ทั้งอึและฉี่แมวส่งกลิ่นเหม็นฉุนไปทั่ว เมื่อแมวเห็นคนต่างพากันซ่อนตัวตามมุมต่างๆ ของพื้นที่ซึ่งรกมาก ไม่สามารถจับได้ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้วางกรงดักไว้ก่อนหน้านี้และช่วยแมวได้ในวันนี้ 4 ตัว

ขณะที่บ้านเลขที่ 387 ถัดไป 3 หลัง เป็นบ้านไม่มีคนอยู่อาศัย เจ้าของแมวได้นำแมวไปขังไว้ คาดว่ามีแมวอยู่ภายในประมาณ 30-40 ตัว สภาพหิวโซ จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ติดตามเจ้าของบ้านเพื่อยินยอมให้เจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยแมวทั้งหมดไปฟื้นฟู

นายทศพร กลั่นแก้ว จนท.ประสานงานองค์กรสิทธิสัตว์แห่งประเทศไทย กทม. เปิดเผยว่า บ้านเลขที่ 401 พบว่าแมวน่าจะเหลืออยู่ส่วนน้อยแล้ว อีกหลังอยู่ถัดไปกำลังรอหมายของเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเข้าไปช่วยเหลือแมว เนื่องจากประตูบ้านปิดตายก่อนหน้ามีปศุสัตว์กับตำรวจเข้ามาแล้ว ชาวบ้านเห็นเจ้าของมาและขับรถออกไป อาจมีการแจ้งดำเนินคดี เพราะมีความผิด พรบ.การทารุณสัตว์ ซึ่ง 4 วันแล้วที่แมวที่อยู่ในนั้นยังไม่ได้กินอาหาร ได้ช่วยแมวไปชุดแรก สภาพผอมแห้ง น่าจะขาดสารอาหารกว่า 20 ตัว ซึ่งได้นำส่งโรงพยาบาลสัตว์ไปเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

นายทศพร กล่าวว่า เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ได้เข้าไปบ้านเลขที่ 522 ช่วยแมวออกไปกว่า 50 ตัว พบสุนัขถูกขังไว้ในห้องน้ำชั้นบน 2 ตัว และชั้นล่าง 1 ตัว สภาพผอมไม่มีขน มีเชื้อราเต็มตัว ซึ่งทรมานมาก กว่าที่เจ้าหน้าที่จะเข้าช่วยได้ต้องไปแจ้งตำรวจมาช่วยเจรจา ก่อนที่เจ้าจของบ้านจะยอมให้เอาสุนัขและแมวไปได้

ด้าน นางประยูร สาแก้ว อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 405 กล่าวว่า ตนกับชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนจากแมวที่เจ้าของนำมาเลี้ยงและขังไว้ในบ้านดังกล่าวจำนวนมาก ไม่ได้กินอาหาร มีทั้งแห้งตายอยู่ในบ้านและขี้เยี่ยวส่งกลิ่นเหม็น เคยไปแจ้งเทศบาลเข้ามาก็ทำอะไรไม่ได้ จนมีมูลนิธิอนุรักษ์มาช่วยแมวทั้งหมด ตนกับชาวบ้านรับสภาพอย่างนี้มาสิบกว่าปี ส่วนมากจะออกไปเก็บแมวจรจัดมาเลี้ยงแล้วก็ไม่ดูแล พอถามป้าเจ้าของแมวก็อ้างว่า ไม่ใช่แมวเขา และคุยไม่รู้เรื่อง จนไม่อยากคุยด้วย บ้านที่เอาแมวไปไว้อีกหลังถัดไป ก็ไม่ใช่ของแก เป็นของเพื่อนบ้านที่ไม่ได้อยู่

นางประยูร กล่าวต่อว่า ก่อนที่มูลนิธิมาช่วยแมว มีอาจารย์ฝรั่งเดินผ่านบ้านและได้ยินเสียงแมวร้องเขาได้ถ่ายคลิปไว้แล้วส่งร้องขอความช่วยเหลือไปทุกที่ จนทางมูลนิธิอนุรักษ์ประสานเข้ามาช่วยเหลือแมว ส่วนบ้านอีกหลังเลขที่ 387 ได้ไปลงบันทึกเป็นหลักฐานเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามเจ้าของ ยินยอมให้เจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยแมวมากกว่า 30 ตัว ซึ่งล่าสุดสามารถติดต่อเจ้าของได้แล้ว และยินยอมให้มูลนิธินำแมวทั้งหมดฟื้นฟูดูแลต่อไป

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน