วราวุธ วอนสังคมประณาม พฤติกรรมใช้ปืนยิง ฉลามหูดำ ทะเลกระบี่ เผย ดำเนินคดีข้อหาใช้เรือโดยไม่ได้รับอนุญาต สั่งปรับแล้ว เร่งเสนอขึ้นบัญชีสัตว์คุ้มครอง

จากกรณีมีการโพสต์คลิปภาพผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ของกลุ่มชายใช้ปืนยิงฉลาม จากการตรวจสอบทราบว่า เป็นฉลามจำพวก ฉลามหูดำ 3 ตัว และ ปลากะมง 2 ตัว พร้อมนำขึ้นมาบนเรือสปีทโบ๊ท ซึ่งจากคลิปดังกล่าว สำนักงานตำรวจน้ำกระบี่ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนทันที เพื่อดำเนินคดีในข้อหาใช้เรือโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมเปรียบเทียบปรับ เป็นจำนวนเงิน 10,000 บาท

วันที่ 15 มิ.ย.2564 นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวว่า ตนได้รับรายงานกรณีมีการโพสต์คลิปความยาวประมาณ 1 นาที ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ของกลุ่มชาย 5 คน บนเรือสปีทโบ๊ท ทราบชื่อเรือภายหลังว่า “Ding lor zing” จอดบริเวณกลางทะเล จ.กระบี่ พร้อมใช้อาวุธปืนยิงฉลามจำพวกฉลามหูดำ 3 ตัว และนำขึ้นมาบนเรือ นอกจากนี้ ภายหลังยังพบปลากะมง อีก 2 ตัว แม้ว่าจากการตรวจสอบ สัตว์ทะเลดังกล่าวไม่จัดอยู่ในสัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง แต่พฤติกรรมดังกล่าวนับเป็นพฤติกรรมที่ไม่สมควรเป็นอย่างยิ่ง

วราวุธ วอนสังคมประณาม พฤติกรรมใช้ปืนยิง ฉลามหูดำ ทะเลกระบี่

วราวุธ วอนสังคมประณาม พฤติกรรมใช้ปืนยิง ฉลามหูดำ ทะเลกระบี่

นายวราวุธ กล่าวต่อว่า ซึ่งหลังจากดูคลิป ตนยังมองไม่เห็นถึงเหตุจูงใจในการฆ่าฉลามอย่างโหดเหี้ยมครั้งนี้ อีกทั้ง ยังโพสต์คลิปออกสู่สังคมจนตกเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ เหตุการณ์ดังกล่าวเปรียบเทียบได้กับว่า มีคนบุกรุกบ้านผู้อื่น เพื่อเข้าไปทำร้ายเจ้าของบ้านที่ไม่มีทางสู้ด้วยอาวุธปืนจนถึงแก่ชีวิต เพียงเพื่อความสนุกคึกคะนองและสะใจของตัวเอง และยังโพสคลิปอวดสังคม คำถามที่สังคมต้องถาม คือ พฤติกรรมนี้เราควรร่วมประณามอย่างไรบ้างให้สาสม ครั้งนี้ คงต้องทบทวนหาแนวทางปกป้องคุ้มครองสัตว์เหล่านี้ให้ครอบคลุมและเคร่งครัดยิ่งขึ้น ซึ่งครั้งนี้ กฎหมายอาจจะเอาผิดกับคนเหล่านี้ไม่ได้ แต่สังคมสามารถตัดสินความผิดเหล่านี้ได้ไม่ยาก

นายวราวุธ กล่าวอีกว่า ตนได้สั่งการให้ นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัด ทส. เร่งหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และทบทวนมาตรการทางกฎหมายทุกฉบับ เพื่อให้สามารถปกป้องรักษาทรัพยากรทางทะเลเหล่านี้ไว้ให้ได้ ในเมื่อสัตว์ทะเลเหล่านี้ป้องกันตัวเองจากคนที่มีพฤติกรรมแบบนี้ไม่ได้ เราก็ต้องช่วยกันปกป้องสัตว์เหล่านี้ให้ได้ อย่างไรก็ตาม สำหรับกรณีนี้ ตนได้มอบหมายให้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ติดตาม ตรวจสอบ และรายงานผลความคืบหน้าให้ตนได้ทราบ และกำชับหน่วยงานในพื้นที่ให้เพิ่มมาตรการเฝ้าระวังและลาดตระเวนให้มากขึ้น พร้อมทั้งสร้างเครือข่ายในพื้นที่ และเร่งประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยวอย่างจริงจังและทั่วถึงโดยด่วน

ด้าน นายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กล่าวว่า ทันทีที่ตนได้รับรายงานดังกล่าว ได้สั่งการให้สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 10 ลงพื้นที่ตรวจสอบ และประสาน สภ. เมืองกระบี่ ภายหลังที่ได้ทราบว่าสำนักงานตำรวจน้ำกระบี่เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีในข้อหาใช้เรือโดยไม่ได้รับอนุญาต

พร้อมเปรียบเทียบปรับเป็นจำนวนเงิน 10,000 บาท นายอลงกรณ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี ชาวจ.กระบี่ ได้ออกไปตกปลากับพวกรวม 5 คน จากท่าเรือเกาะพีพี ไปยังจุดตกปลา ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวอยู่นอกเขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี โดยห่างออกไปราว 96 กิโลเมตร และห่างจากฝั่งประมาณ 42 กิโลเมตร และไม่อยู่ในพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อม

นายโสภณ กล่าวอีกว่า สำหรับฉลามจำพวกฉลามหูดำ พบมากตามกองหินห่างจากฝั่ง พบได้ทั้งอ่าวไทยและอันดามัน ที่สำคัญ ยังไม่พบว่าเคยทำอันตรายกับมนุษย์ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ฉลามหูดำไม่ได้บรรจุอยู่ในบัญชีสัตว์คุ้มครองตามพ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ. 2557 โดยกรมฯ จะได้สำรวจและผลักดันสัตว์ทะเลชนิดสำคัญ รวมถึง ฉลามหูดำ เพื่อบรรจุในบัญชีสัตว์ป่าคุ้มครองและสัตว์คุ้มครองตาม พ.ร.บ. ป้องกันและทารุณกรรมสัตว์ และผลักดันให้ฉลามหูดำเข้าสู่บัญชีสัตว์ป่าคุ้มครอง ตาม พ.ร.บ. สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 ต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน