หลานแม่เฒ่า ยื่นศาลขอขยายเวลาอยู่บ้านอีก 60 วัน เพื่อใช้เวลาเจรจากับเจ้าหนี้ กราบขอร้องเจ้าหนี้ ไถ่บ้านคืน หลังโดนยื่นคำขาดจะเข้ายึดบ้านในวันนี้
กรณี 4แม่เฒ่า พี่น้อง คือ นางโปรย อนุเคราะห์ อายุ 94 ปี น.ส.ศรีนวล ทิมแย้ม อายุ 82 ปี น.ส.แฉล้ม ทิมแย้ม อายุ 80 ปี และน.ส.ตะล่อม ทิมแย้ม อายุ 77 ปี ถูกเจ้าหน้าหนี้ไล่ที่ให้ออกไปจากบ้านที่ อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย ซึ่งเคยอยู่อาศัยตั้งแต่เล็กจนโต โดยขีดเส้นภายในวันที่ 17 มิ.ย.64 ภายหลังหลานชายนำที่ดิน จำนวน 4 แปลง ของคนในครอบครัวไปค้ำประกันเงินกู้ จำนวน 450,000 บาท จากเจ้าหนี้รายหนึ่ง โดยเป็นที่ดินทำกิน 3 แปลง ประมาณ 12 ไร่เศษ และที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง 3 งาน 97 ตารางวา เพื่อเดินทางไปทำงานยังไต้หวัน และถูกหลอก และไม่สามารถหาเงินมาชำระคืนได้ทัน
เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.64 ผู้วื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. ที่ผ่านมา นายลวง อนุเคราะห์ ลูกชายของนางโปรย อนุเคราะห์ เดินทางมารับคำร้องที่อัยการจังหวัดสุโขทัย เพื่อนำไปยื่นต่อศาล พิจารณาคำร้องขอขยายระยะเวลาให้ยายทั้ง 4 และครอบครัวอยู่ในบ้านเพิ่มเติมไปอีก 60 วัน เพื่อใช้ห้วงเวลานี้เจรจากับเจ้าหนี้ ในการขอซื้อบ้านและที่ดินคืน อีกทั้งก่อนหน้านี้เจ้าหนี้ยื่นคำขาดจะเข้ามายึดบ้านหลังนี้ ให้ออกจากบ้านตนเองภายในวันที่ 17 มิ.ย.
“เป็นเวลาเกือบ 3 ปีที่นายลวง และแม่เฒ่าทั้ง 4 ต่อสู้ทุกวิถีทาง ทั้งเข้าพบขอความเป็นธรรมจากทุกหน่วยงานเพื่อหวังว่าจะมีสักวันที่ได้นอนหลับเต็มที่ มีบ้านมีที่ให้แม่และน้าๆ ที่แก่เฒ่า พี่สาวที่เจ็บไข้ และลูกหลาน มีที่อยู่ และไม่ต้องคิดถึงเรื่องหนี้สิน มาถึงวันนี้ที่เป็นข่าว ทุกช่องทุกสำนักข่าวออกข่าวด้วยความสงสารยายเฒ่า และประชาชนที่มีเมตตาทำบุญโอนเงินมาช่วยเหลือผม และครอบครัว ให้มีเงินพอจะซื้อบ้านคืนได้ จึงอยากอ้อนวอนขอความเมตตาจากเจ้าหนี้ เห็นแก่มนุษยธรรมขายคืนบ้านและที่ดิน พี่ยายเฒ่าทั้ง 4 ได้อาศัยอยู่ให้ด้วย ตอนนี้พอมีเงินจากการบริจากและทำบุญจากประชาชนทั่วประเทศให้เพื่อมาซื้อคืนบ้าน และที่ดินได้แล้ว นายลวง และแม่เฒ่าตะล่อม ยังกล่าวด้วยว่าจะให้ไปกราบขอร้องอย่างไรก็ยอม”
ที่มา มติชนออนไลน์
