เมื่อเวลา 04.30 น. วันที่ 25 พ.ย. ร.ต.อ.สุเวช โวหาร ร้อยเวร สภ.แก่งหางแมว ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุกู้ภัย สมาคมสว่างกตัญญูธรรมสถาน จันทบุรี ว่ามีอุบัติเหตุรถแท็กซี่เสียหลักชนต้นไม้ข้างทาง บนถนนสายนายายอาม-บ้านเขาวงกต ทางเข้าสวนริมธารรีสอร์ท ม.1 ต.เขาวงกต อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี ทำให้มีผู้เสียชีวิต รวม 4 ราย และได้รับบาดเจ็บ 1 ราย โดยยังมีร่างผู้เสียชีวิต 1 ใน 4 ราย และผู้ได้รับบาดเจ็บ ยังติดอยู่ในซากยานพาหนะ หลังได้รับแจ้งจึงได้พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯพร้อมรถอุปกรณ์ตัดถ่าง เดินทางตรวจสอบและให้การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ

ที่เกิดเหตุเบื้องต้นพบรถยนต์แท็กซี่บุคคล ยี่ห้อโตโยต้า อัลติส สีเหลืองคาดเขียว หมายเลขทะเบียนป้ายเหลือง มช6303 กรุงเทพมหานคร อยู่ในสภาพตัวรถฝั่งคนขับ เสียหลักฟาดกับต้นไม้พังเสียหาย โดยในซากรถพบศพของนายลำพูน แก้วใหญ่ อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 125 ม.10 ต.บ้านดุง อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี โชเฟอร์แท็กซี่ ถูกแรงอัดเสียชีวิตติดอยู่บนที่นั่งคนขับ ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 1 รายเป็นชายไม่ทราบชื่อ สัญชาติชาวกัมพูชา ติดอยู่ในซากรถบนเบาะผู้โดยสารด้านหลังคนขับ ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยให้การช่วยเหลือ นำร่างออกมาจากกระจกหลัง ก่อนนำตัวส่งรพ.นายายอาม

ในที่เกิดเหตุ ยังพบมีผู้เสียชีวิตอีก 3 ราย เป็นชาย 1 ราย และหญิงอีก 2 ราย ร่างกระเด็นหลุดออกมาจากรถแท็กซี่ นอนอยู่ในป่าข้างทาง นอกจากนี้ยังพบชิ้นส่วนของรถแท็กซี่ ตลอดจนสัมภาระของผู้โดยสารปลิวกระจายตกไปทั่วบริเวณ

จากการสอบสวนของ ร.ต.อ.สุเวช โวหาร ร้อยเวรเจ้าของคดี เบื้องต้นทราบว่าผู้เสียชีวิตทั้ง 3 ราย ที่กระเด็นออกมาจากรถ และผู้ที่ได้รับบาดเจ็บอีก 1 ราย เป็นแรงงานชาวกัมพูชาทั้งหมด แต่ยังไม่ทราบชื่อเนื่องจาก ตรวจสอบภายในตัวแล้วไม่พบบัตรประจำตัวหรือเอกสารที่เกี่ยวข้อง

สอบสวน นส.เมทนี ศรีวิเศษ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 168/1 ม.6 ต.เขาวงกต อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี ผู้ที่เห็นเหตุการณ์ ให้การกับเจ้าหน้าที่ว่า ก่อนเกิดเหตุขี่รถจักรยานยนต์ออกมาหาพี่สาว ที่โรงงานแปรรูปยางพารา ซึ่งอยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุ เห็นรถแท็กซี่คันดังกล่าวขับออกมาจากบ้านเขาวงกต ผ่านหน้าโรงงานมุ่งหน้าไปทางอ.นายายอามด้วยความเร็วสูง จากนั้นไม่นานได้ยินเสียงวัตถุชนกับต้นไม้ดังโครมสนั่น จึงรีบขี่รถตามออกมาดู ก็พบว่าเป็นรถแท็กซี่คันที่เพิ่งเห็นประสบอุบัติเหตุชนกับต้นไม้ข้างทาง โดยมีร่างผู้เสียชีวิตกระเด็นออกมาจากรถนอนอยู่ในป่าหญ้า 3 คน โดยคนขับและผู้โดยสารอีกคน ยังติดอยู่ในซากรถ จึงรีบโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือ

อย่างไรก็ตาม สาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ ยังอยู่ในระหว่างการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ ทั้งนี้จะตรวจสอบร่องรอยหลักฐานในที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน พร้อมกันนี้จะได้สอบปากคำผู้ได้รับบาดเจ็บ ตลอดจนผู้ที่เห็นเหตุการณ์ ในการสรุปหาสาเหตุที่แน่ชัดอีกครั้งต่อไป

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน