พ่อเฒ่าเมืองอุดรฯ หายจากบ้าน3เดือน เหลือแต่โครงกระดูก เมียช็อก! ฝันตรงเป๊ะ เผยป่วยเป็นโรคพาร์กินสันและโรคหลงลืม
เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2564 พ.ต.ท.รัชพล โมรารัตน์ สว.( สอบสวน) สภ.นาข่า อ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งว่ามีคนพบโครงกระดูกมนุษย์ในป่า ท้ายหมู่บ้านเหล่าศรีจารย์ หมู่ 10 ต.นาข่า อ.เมืองอุดรธานี จึงรีบไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.ศูนย์อุดรธานี อาสากู้ภัยมูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรม
ที่เกิดเหตุพบเป็นป่าชุมชนมีต้นไม้ขึ้นหนาทึบสูงท่วมศีรษะ เดินเข้าไปประมาณ 100 เมตร พบร่างกายของมนุษย์ที่เหลือแต่โครงกระดูก ต่อมาภายหลังทราบว่าเป็นร่างของนายธงชัย เสวตวงษ์ อายุ 66 ปี อยู่บ้านเลขที่ 81 หมู่ 8 บ้านดอนแตง ต.นาข่า อ.เมือง จ.อุดรธานี
สภาพสวมเสื้อแจ็กเก็ตสีดำ ผ้าขาวม้าสีฟ้าดำขาว นอนหงายอยู่ใกล้กับจอมปลวกสูงประมาณ 1 เมตร นอกจากนี้ยังพบแหวนสแตนเลส 1 วง เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน หลังจากนั้นแพทย์ได้ทำการชันสูตรพลิกศพระบุร่างกายเสียชีวิตจากการอดอาหารและน้ำ มาประมาณ 3 เดือน
จากการสอบสวนนายบุเรงนอง ใจใส อายุ 50 ปี ญาติผู้ตายและเป็นคนพบศพคนแรกให้การว่า ก่อนหน้านี้หลังทราบว่าผู้ตายหายออกจากบ้านก็ได้ไปช่วยตามหา ประมาณ 1 สัปดาห์ก็ไม่พบจึงหยุดตามหา
จนกระทั่งเมื่อคืนนี้ฝนตกตนจึงออกมาเก็บเห็ดที่ป่าชุมชนซึ่งกระทำมาเป็นประจำทุกปี ขณะที่กำลังเดินหาเห็ดอยู่นั้นก็มาพบผ้าขาวม้ากองอยู่บนโครงกระดูกศพ ก็จำได้ว่าเป็นผ้าขาวม้าที่นายธงชัยใส่ประจำ และโครงร่างดังกล่าวน่าจะเป็นร่างของนายธงชัยที่เหลือแต่โครงกระดูกแน่นอน
จึงได้ใช้มีดตัดกิ่งไม้เพื่อเปิดทางเดินเข้าไปให้เป็นที่สังเกตได้ง่าย แล้วเดินออกไปบอกภรรยาผู้ตายมาดูโครงกระดูกดังกล่าว พร้อมกับแจ้งผู้ใหญ่บ้าน
ส่วนนางหนูกุล เสวตวงษ์ อายุ 64 ปี ภรรยาผู้ตายให้การว่า ตนมีอาชีพเป็นแม่ครัวประจำโรงเรียนแห่งหนึ่ง ส่วนผู้ตายนั้นทำงานก่อสร้าง ตนกับผู้ตายอยู่ด้วยกันมา 30 ปี ไม่มีลูกด้วยกัน ผู้ตายเป็นคนขยันทำมาหากินมาก แต่เมื่อ 4 ปีก่อน ผู้ตายป่วยเป็นโรคพาร์กินสันและโรคหลงลืม กระทั่งมาหายออกจากบ้านเมื่อ 3 เดือนก่อน
ตนจึงได้ไปแจ้งผู้ใหญ่บ้าน แล้วออกตามหาพร้อมกับญาติพี่น้องแต่ก็ไม่พบ ก็ยังคิดว่ายังมีชีวิตอยู่ แต่คงเดินไปไกล คือเดินไปเรื่อยๆ ขอข้าวขอน้ำกินไม่เป็น จนจำทางกลับบ้านไม่ได้
นางหนูกุลฯ ยังให้การต่อไปว่าก่อนมาพบศพ เมื่อ 2 วันก่อนตนฝันว่าผู้ตายหิวข้าว มาขอกินข้าว กินเสร็จแล้วตนได้เดินมาส่งผู้ตายที่บ้าน จนเมื่อเดินมาถึงเป็นจอมปลวกใหญ่ (ซึ่งก็เป็นที่พบศพในวันนี้) ผู้ตายได้วิ่งหนีหายเข้าไปในจอมปลวก ตนก็วิ่งตามมาแต่ก็ไม่พบ
และเมื่อคืนนี้ตนก็ฝันอีกว่า ขณะผู้ตายนอนหลับ ได้มีผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่จะเอาปืนมายิง ตนได้วิ่งเข้าไปกอดผู้ตายไว้ ทำให้ปืนยิงไม่ออก แต่พอตนคลายอ้อมกอดออก ก็พบว่าตนกอดโครงกระดูก คิดว่าผู้ตายมาเข้าฝันเพื่อบอกว่าศพอยู่ที่นี่
เมื่อมาพบโครงกระดูกที่นี้วันนี้ตนก็มั่นใจว่าเป็นโครงกระดูกสามี เพราะจำผ้าขาวม้า และแหวนสแตนเลสที่นิ้วนางได้แม่นยำ
หลังจากนั้นนางหนูกุล ได้เด็ดยอดผักบุ้งมาแทนดอกไม้ เทียน 5 คู่ ทำขันธ์ห้า เพื่อบอกกล่าวดวงวิญญาณผู้ตาย ให้กลับบ้าน เพื่อประกอบพิธีทางศาสนา และฌาปนกิจ ทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ พร้อมกับพูดปนเสียงสะอื้น น้ำตานองหน้าว่า “เกิดชาติหน้าฉันใด ขอให้เป็นผัวเมียกันอีกเด้อตู้เด้อ”
น.ส.แววดาว นามบุตร ผญบ.บ้านเหล่าศรีจารย์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งว่านายธงชัย ซึ่งมีอาการหลงลืม สติไม่ดี หายออกจากบ้านตอนกลางคืน จึงได้ระดมชาวบ้าน และหน่วยกู้ภัย พร้อมเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงานออกติดตาม นานกว่า 2 สัปดาห์
แม้แต่ป่าแห่งนี้ชาวบ้านก็เข้ามาหา ใช้โดรนบินค้นหาก็ไม่พบ จึงได้ยกเลิกการค้นหา กระทั่งมีชาวบ้านมาเก็บเห็ดในป่านี้ ที่ชาวบ้านมักเข้ามาหาเห็ดประจำ มาพบศพเหลือแต่โครงกระดูก
แต่ญาติจำผ้าขาวม้าที่ผู้ตายสวมใส่ได้ จึงมาแจ้งภรรยาและผู้ใหญ่บ้านเข้ามาดูแล้วภรรยายืนยันว่าเป็นโครงกระดูกสามี เพราะจำผ้าขาวม้าที่ซื้อให้สามี และแหวนสแตนเลส ที่ผู้ตายสวมใส่ได้
พ.ต.ท.รัชพล โมรารัตน์ สว.(สอบสวน) สภ.นาข่า เปิดเผยว่า มีการแจ้งคนหาย เมื่อพบศพญาติจำตำหนิรูปพรรณ เสื้อผ้า คนหายได้ และพบศพไม่ห่างจากบ้านมากนัก ประมาณ 500 เมตร เมื่อญาติไม่ติดใจในการเสียชีวิต จึงลงบันทึกไว้เป็นหลักฐานแล้วมอบศพให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี ต่อไป