ทำบุญครบรอบ 17 ปี เจริญ วัดอักษร แกนนำค้านสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน ถูกซุ่มยิงเสียชีวิต ภรรยาเผย พิธีฌาปนกิจ ขอรอเวลาที่เหมาะสมก่อน
วันที่ 21 มิ.ย. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้เมื่อ 17 ปีที่แล้ว นายเจริญ วัดอักษร ประธานกลุ่มรักษ์ท้องถิ่นบ่อนอก ต.บ่อนอก อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ นักอนุรักษ์ด้านสิ่งแวดล้อมชื่อดังชาวประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นแกนนำคัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินบ่อนอก-หินกรูด ต้องจบชีวิตลงก่อนวัยอันควร ถูกคนร้ายดักซุ่มยิงขณะลงจากรถทัวร์ในช่วงกลางดึก
หลังเพิ่งกลับจากให้ข้อมูลไปประชุมกับคณะกรรมาธิการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ วุฒิสภา พร้อมทั้งยื่นข้อมูลการออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบในที่ดินสาธารณประโยชน์ทุ่งเลี้ยงสัตว์คลองชายธง ต.บ่อนอก จำนวน 931 ไร่
โดยวันนี้ที่วัดสี่แยกบ่อนอก เครือข่ายกลุ่มอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้ร่วมกันทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับ นายเจริญ วัดอักษร นักอนุรักษ์ผู้ล่วงลับ ท่ามกลางมาตรการการเฝ้าระวังโควิด-19 ทั้งจำกัดจำนวนและการตรวจวัดอุณหภูมิ โดยภายหลังพิธีสงฆ์แล้ว กลุ่มชาวบ้านเครือข่ายอนุรักษ์ฯ จะหารือร่วมกัน
ถึงสถานการณ์ด้านสิ่งแวดล้อมของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตลอดจนแนวทางการแก้ไขปัญหาที่จะสามารถทำได้ โดยเฉพาะกฎหมายจากการทำประมงพื้นบ้าน โดยเครือข่ายประมงพื้นบ้านจาก อ.กุยบุรี และบ้านคั่นกระได ต.อ่าวน้อย อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์
นางกรณ์อุมา พงษ์น้อย ภรรยาของเจริญ วัดอักษร ในฐานะประธานกลุ่มรักท้องถิ่นบ่อนอก กล่าวหลังเสร็จพิธีสงฆ์แล้วว่า กิจกรรมในวันนี้ครอบครัววัดอักษร และกลุ่มเพื่อนนักอนุรักษ์ ต้องการทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับเจริญ วัดอักษร แม้ผ่านไปถึง 17 ปีแล้ว แต่ไม่มีใครลืม
สำหรับทางคดีนั้น ตำรวจจับกุมผู้ต้องหาได้ 5 คน ประกอบด้วยผู้บงการและจ้างวานฆ่า รวม 3 คน ประกอบด้วยอดีตผู้นำท้องถิ่น นักการเมือง และทนายความ ส่วนอีก 2 คน เป็นมือปืนที่รับงาน คดีต่อสู้ยาวนาน รวมระยะเวลากว่า 10 ปี จนทำให้จำเลย 2 คน ซึ่งถูกฟ้องในฐานะมือปืน เสียชีวิตในเรือนจำ
ขณะที่จำเลยที่เหลืออีก 3 คน ศาลฎีกามีคำพิพากษา เมื่อเดือนตุลาคม 2558 ให้ยกฟ้อง เนื่องจากพยานหลักฐานไม่มีน้ำหนักเพียงพอ หลังการสูญเสียมานาน 17 ปี พบว่ามีหลายเรื่องที่เกิดการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น เช่น เรื่องพลังงาน การก่อสร้างโรงไฟฟ้าที่ใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงลดลง และเรื่องที่ดินสาธารณะ ได้มีนำขับเคลื่อนให้ผู้บุกรุกออกไปแล้ว ชาวบ้านได้ช่วยกันฟื้นฟูให้ระบบนิเวศวิทยากลับมาสมบูรณ์อีกครั้ง
ซึ่งที่สาธารณะที่นายเจริญ วัดอักษร ได้ขับเคลื่อนนั้น เป็นที่ดินระบบนิเวศชายฝั่งทะเล ซึ่งชาวบ้านได้ร่วมกับหลายหน่วยงาน ฟื้นฟูและรักษาไว้ ทั้งป่าชายหาด ป่าชายเลน แหล่งน้ำจืดธรรมชาติ ซึ่งทั้งหมดเรียกว่า พื้นที่ชุ่มน้ำชายหาด
โดยร่วมมือเป็นภาคีเครือข่าย ระหว่าง อบต.บ่อนอก มูลนิธิมฤคทายวัน และมูลนิธิไทยพีบีเอส มาร่วมกันกันอนุรักษ์ทำงานร่วมกัน ให้ความรู้ความเข้าใจตั้งแต่ในโรงเรียน จนถึงระดับชุมชนเพื่อให้เกิดความเข้าใจในการอนุรักษ์ ซึ่งป่าชายหาดนั้นภาพรวมทั้งประเทศเหลือน้อยมาก ถึงวันนี้ต้องยอมรับว่าการสูญเสียที่เกิดขึ้นเกิดการเปลี่ยนแปลง หลายโครงการที่จะเกิดขึ้น มีการหยุดชะงักเพื่อทบทวน ข้อเสียและปรับเปลี่ยนให้ดีขึ้น
ส่วนพี่น้องประชาชนทั่วประเทศได้รวมตัวกันต่อสู้เพื่อทรัพยากรในท้องถิ่นของตัวเอง โดยมีการต่อสู้ของ เจริญ วัดอักษร และเครือข่ายสิ่งแวดล้อมของ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นตัวอย่าง มีประชาชนกลุ่มต่างๆ ติดต่อเข้ามาเพื่อขอคำแนะนำจำนวนมาก เรียกได้ว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงในทุกพื้นที่ อย่างไรก็ตามสำหรับการฌาปนกิจร่างของ เจริญ วัดอักษร นั้นยอมรับว่า สุดท้ายจะต้องฌาปนกิจอย่างแน่นอน แต่ขอรอเวลาที่เหมาะสมก่อน
