เตือนสังเกตอาการ สูดสารเคมีก่อมะเร็ง เหตุโรงงานระเบิดที่ซอยกิ่งแก้ว 21 สมุทรปราการ เผยมูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 700 ล้านบาท ประเทศไทยมีโรงงานประกอบกิจการผลิตเม็ดโฟมแบบนี้ 2 แห่ง
วันที่ 5 ก.ค.2564 นายประกอบ วิวิธจินดา อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) กล่าวถึงกรณีเกิดเหตุระเบิดและไฟไหม้ภายในบริษัท หมิงตี้ เคมีคอล จำกัด ซอยกิ่งแก้ว 21 ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตขณะนี้กลุ่มควันและแสงเพลิงยังคงไม่มีท่าทีจะสงบ ว่า กรอ.ได้เคลื่อนย้ายประชาชนออกจากพื้นที่ไปยังพื้นที่ปลอดภัยในรัศมี 5 กิโลเมตร ให้ห่างจากพื้นที่ที่สามารถติดไฟได้ พร้อมกับล้างสารเคมีที่เหลือด้วยน้ำปริมาณมากๆ ซึ่งสารสไตรีนโมโนเมอร์ เป็นสารตั้งต้นผลิตโฟมก็มีคุณสมบัติติดไฟได้ง่าย
” ส่วนสารพอลิสไตรีนนั้น เมื่อถูกความร้อนสูง จะให้สาร 2 ชนิดคือ สไตรีน และเบนซีน โดยเบนซีนเป็นสารพิษอันตราย มีความเป็นพิษสูงและเป็นสารก่อมะเร็ง อาการของผู้ที่ได้รับเบนซีนเมื่อหายใจเข้าไปในระดับสูงและเป็นเวลานาน คือในระยะแรกๆ จะเกิดอาการซึม วิงเวียน คลื่นไส้ หมดสติ ใจสั่น เมื่อสูดดมเป็นเวลานานจะทำให้เป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดได้ สำหรับเหตุไฟไหม้ครั้งนี้ คาดว่ามูลค่าสินทรัพย์ในกองเพลิงเกือบ 700 ล้านบาท ขณะนี้ยังหวั่นจะระเบิดซ้ำ ”
ด้านนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ได้รับรายงานตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้จึงส่งหน่วยเคลื่อนที่เร็วของกรมโรงงานอุตสาหกรรม เข้าไปในพื้นที่ตั้งแต่ช่วงเกิดเหตุพร้อมส่งรถตรวจสภาพอากาศเข้าไปในพื้นที่แล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการหาสาเหตุ พร้อมอพยพประชาชนในพื้นที่อย่างเร่งด่วน และตั้งโรงพยาบาลสนาม เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่มูลนิธิร่วมกตัญญูในพื้นที่จ.สมุทรปราการ ในเบื้องต้นแล้ว นอกจากนี้ยังสั่งการให้ดำเนินมาตรการเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาสภาพอากาศ ที่ กรอ. กรมควบคุมมลพิษ และสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 13 ลงพื้นที่ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่โดยรอบ พร้อมตรวจวัดคุณภาพอากาศและปริมาณสารเคมีที่ก่อให้เกิดอันตราย
” เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนายกรัฐมนตรี ได้แสดงความเป็นห่วงอย่างมาก โดยสั่งการตั้งแต่ช่วงเกิดเหตุให้ผมลงพื้นที่ตรวจสอบว่าโรงงานประเภทดังกล่าว จากการตรวจสอบพบว่าทั่วประเทศมีโรงงานประกอบกิจการผลิตเม็ดโฟม ESP หรือ Expandable Polystyrene จำนวน 2 แห่ง คือที่จ.สมุทรปราการ และ โรงงานไออาร์พีซี จ.ระยอง ซึ่งโรงงานแห่งนี้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2532 และได้ตั้งก่อนที่จะมีชุมชนเข้าไปตั้งในบริเวณใกล้เคียง โดยการจะตั้งโรงงานประเภทนี้จะมีการทำรายงานวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม หรือ อีไอเอ และรายงานวิเคราะห์ผลกระทบด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อม หรือ อีเอชไอเอ อยู่แล้ว “
