ตำรวจพัทยา ระดมกำลังจับ ชายคลั่ง กระโดดข้ามตึก ภายในซอยพัทยา อ.บางละมุง นาน 13 ชั่วโมง ก่อนสามารถรวบตัวได้บนดาดฟ้า และเร่งนำส่งโรงพยาบาล
จากกรณีเมื่อช่วงเที่ยงของวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา เกิดเหตุชายคุ้มคลั่งปีนขึ้นตึกของโรงแรม แล้วไต่ไปมาตามระเบียงเป็นที่น่าหวาดเสียว โดยเจ้าหน้าที่หลังรับแจ้งได้ระดมกำลังวางแผนเพื่อช่วยเหลือ เป็นเวลานานกว่า 10 ชั่วโมง ทั้งส่งคนเจรจารวมถึงกดดัน ให้ผู้ก่อเหตุยอมลงมาจากตึก ก็ยังไม่เป็นผลสำเร็จ แต่ผู้ก่อเหตุกลับปีนหนีแล้วไต่ขึ้นตึกใกล้เคียง สร้างความโกลาหลให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างมาก ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 11 ก.ค.2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถควบคุมตัวผู้ก่อเหตุไว้ได้อย่างปลอดภัย บนดาดฟ้าของอาคารพาณิชย์ภายในซอยพัทยา 8 เมืองพัทยา ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี แต่ยังไม่สามารถนำตัวผู้ก่อเหตุลงมาได้ เนื่องจากไม่มีผู้พักอาศัยอยู่ และปิดล็อกอย่างแน่นหนา จึงต้องประสานรถกระเช้าของเมืองพัทยาสนับสนุนที่เกิดเหตุ เพื่อรับเจ้าหน้าที่และผู้ก่อเหตุลงจากดาดฟ้าของอาคารพาณิชย์
ตำรวจพัทยา ระดมกำลังจับ ชายคลั่ง กระโดดข้ามตึก ภายในซอยพัทยา อ.บางละมุง นาน 13 ชั่วโมง
พ.ต.อ.ธนาวุฒิ จงจิระ รอง ผบก.รรท.ผกก.สภ.เมืองพัทยา เปิดเผยถึงการเข้าควบคุมตัวในครั้งนี้ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปรับเปลี่ยนแผนในการเข้าระงับเหตุ ตลอดเวลาตามสถานการณ์ เพื่อคำนึงถึงความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมถึงตัวผู้ก่อเหตุด้วย เมื่อทำการปิดล้อมกดดันจนผู้ก่อเหตุจนมุมแล้วไม่สามารถปีนหนีไปตึกไหนได้อีก จึงนำกำลังเข้าชาร์จตัว แต่ผู้ก่อเหตุอาศัยความมืดวิ่งหนีกระโดดข้ามตึกสูงราว 6 ชั้น ไปยังตึกใกล้เคียง
พ.ต.อ.ธนาวุฒิ กล่าวต่อว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจและพลเมืองดีที่พอจะรู้โครงสร้างอาคารได้กระโดดติดตามข้ามไปติด ๆ กระทั่งสามารถควบคุมตัวไว้ได้อย่างชุลมุน อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถนำตัวผู้ก่อเหตุลงจากชั้นดาดฟ้าได้ ต้องประสานเมืองพัทยานำรถกระเช้ามาช่วย แต่ด้วยความแคบของซอย ป้ายร้าน และสายไฟสายสื่อสารต่าง ๆ อยู่ต่ำ สร้างความยากลำบากให้เจ้าหน้าที่อย่างมาก ภายหลังจึงติดต่อผู้เช่าอาคารพาณิชย์คูหาดังกล่าว ขอความร่วมมือให้ช่วยเปิดประตู เพื่อเคลื่อนย้ายผู้ก่อเหตุออกมาด้านล่าง
เบื้องต้นทราบชื่อคือ นายเกียรติคุณ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 43 ปี อยู่ในอาการตาเหลือก อ่อนเพลียอย่างหนัก เจ้าหน้าที่ต้องช่วยกันหามลงมาจากชั้นดาดฟ้า ก่อนจะเคลื่อนย้ายส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน พร้อมจัดกำลังเฝ้าดูพฤติกรรมอย่างใกล้ชิด ซึ่งจะต้องเชิญตัวมาตรวจหาสารเสพติดในร่างกาย และสอบปากคำถึงสาเหตุการก่อเหตุในภายหลังจากอาการดีขึ้น
