เปิดเบาะแสคดีแหม่มที่ภูเก็ต ทรัพย์สินมีค่าอยู่ครบ เช็กคดีเก่าในพื้นที่-เทียบหาคนร้าย จัด 3 ทีมแกะรอยหาหลักฐาน ตรวจสอบไทม์ไลน์ของผู้เสียชีวิต
จากคดีสะเทือนขวัญพบศพนักท่องเที่ยวหญิงชาวสวิตเซอร์แลนด์ อายุ 57 ปี ที่เดินทางเข้ามาภายใต้โครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ เดินทางเข้ามาประเทศไทย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา ถูกทำร้ายจนเสียชีวิตบริเวณแอ่งน้ำ ธารน้ำตกโตนอ่าวยน ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต สภาพเปลือยและถูกคลุมด้วยผ้ายางสีดำ มีหินก้อนใหญ่ทับไว้ คาดเสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 3 วัน
สำหรับความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 6 ส.ค.64 รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับผู้เสียชีวิตชาวสวิส เดินทางเข้าไทยตามโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ เมื่อวันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมาและพักโรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จนครบ 14 วัน จากนั้นเดินทางไปท่องเที่ยวที่จ.กระบี่ ก่อนกลับมาพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งในต.วิชิต และมาพบเสียชีวิตดังกล่าว
ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตยังอยู่ระหว่างการสอบสวน และรอผลการชันสูตรของแพทย์ว่าเกิดจากอะไรแน่ แต่จการที่นำผ้ายางมาคลุมร่างกึ่งห่อกึ่งคลุมนั้น ทำให้วิเคราะห์ได้ว่าต้องมีคนนำมาคลุมไว้ จึงสันนิษฐานได้ว่าการเสียชีวิตน่าจะไม่ปกติ โดยยังอยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมด้วยว่าเป็นการฆ่าข่มขืนหรือไม่ ซึ่งต้องรอผลการชันสูตรของแพทย์
แต่จากสภาพแวดล้อมและสภาพศพที่พบ สันนิษฐานได้ว่าคนร้ายไม่ได้ประทุษร้ายต่อทรัพย์สิน เนื่องจากทรัพย์สินของผู้ตายยังอยู่ครบ ส่วนผู้ก่อเหตุจะมากับผู้ตายหรือเป็นคนที่มาพบระหว่างที่นักท่องเที่ยวเดินเข้าป่ามาคนเดียว หรือเป็นคนที่นำพานักท่องเที่ยวเข้าไปนั้น ในเรื่องนี้ต้องรอผลการสอบสวน เพื่อหาข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นอีกครั้ง
สำหรับผู้เสียชีวิตเบื้องต้นพบว่า เดินทางมาคนเดียว และหายออกจากที่พักในวันที่ 3 ส.ค. ก่อนจะมาพบศพในบ่ายวันที่ 5 ส.ค. โดยพื้นที่พบศพถือว่าเป็นพื้นที่เปลี่ยว ไม่ค่อยมีคนมาท่องเที่ยว และไม่มีกล้องวงจรปิด แต่พบวงจรปิดครั้งสุดท้ายในบริเวณที่พัก ส่วนแนวสืบสวนจะนำคดีการเสียชีวิตของชาวต่างชาติในพื้นที่เกาะสมุยมาเทียบเคียงหาตัวผู้ก่อเหตุหรือไม่นั้น
จากนี้ทีมสืบสวนได้แบ่งกำลังออกเป็น 3 ชุด ประกอบด้วย ทีมตรวจสอบไทม์ไลน์ของผู้เสียชีวิต ทีมตรวจสอบสภาพแวดล้อมในบริเวณที่เกิดเหตุและพื้นที่ใกล้เคียง และทีมสอบสวนหาพยานบุคคลและพยานหลักฐานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
