เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานรับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีพ่อแม่เด็กแฝดชาย-หญิงคู่หนึ่ง แจกการ์ดเชิญให้ญาติและเพื่อนบ้านกว่า 200 ใบ เพื่อมาร่วมงานมงคลสมรสของหนูน้อยแฝดวัย 5 ขวบ สร้างความฮือฮาและแปลกใจให้กับผู้ที่จะมาร่วมงานยิ่งนัก
จึงเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 5 ถ.โพธิ์ศรี ในเขตเทศบาลเมืองนครพนม พบนายวีระวัฒน์ ภูมิลา อายุ 39 ปี พนักงานประเมินราคาและสินเชื่อธนาคารออมสินเขตนครพนม และน.ส.ประภาพร มุกดาวดี อายุ 38 ปี พนักงานกองช่างเทศบาล ต.ธาตุพนม อ.ธาตุพนม จ.นครพนม พร้อมญาติผู้ใหญ่กว่า 50 คน ตั้งขบวนแห่ขันหมากของด.ช.วีระพงศ์ ภูมิลา หรือน้องภัทร วัย 5 ขวบ บุตรชายฝ่ายเจ้าบ่าว ไปสู่ขอ ด.ญ.ปรวีร์ ภูมิลา หรือน้องภีม อายุ 5 ขวบ บุตรสาว
โดยเวลา 15.39 น. หลังขบวนขันหมากแห่เข้าไปในบ้าน พบเด็ก ๆ เพื่อนเจ้าสาวได้นำเข็มขัด สร้อยคอ มากั้นประตูเงินประตูทอง พร้อมจัดพิธีสวมแหวน โดยญาติน้องภัทร ฝ่ายเจ้าบ่าว นำสินสอดเป็นเงินสด 1 แสนบาท และสร้อยทองคำหนัก 9 บาท สู่ขอน้องภีม เจ้าสาว และมีพราหมณ์พิธีบายศรีสู่ขวัญให้คู่บ่าวสาวเหมือนพิธีวิวาห์ทั่วไป ท่ามกลางญาติมาร่วมผูกข้อต่อแขนแสดงความยินดีกว่า 100 คน โดยเจ้าภาพได้จัดโต๊ะจีนไว้ 25 โต๊ะ มีดนตรีขับกล่อมให้กับแขกเหรื่อที่มาร่วมงานดังกล่าวด้วย
น.ส.ประภาพร แม่ของน้องภัทรและน้องภีม กล่าวว่า ลูกชายและลูกสาวทั้งคู่เรียนอยู่โรงเรียนชุมชนเทศบาล 3 ชั้นอนุบาล 2 และเรียนอยู่ห้องเดียวกันด้วย สาเหตุที่ต้องจัดงานแต่งงานขึ้น เนื่องจากผู้เฒ่าผู้แก่ทักว่าหากมีลูกแฝดชาย-หญิง ต้องจับให้แต่งงานกัน เพื่อเป็นการแก้เคล็ด หวังให้ลูกชายและลูกสาวไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ มีความสุขและมีอายุยืนยาว ตามความเชื่อของคนโบราณ
น.ส.ประภาพร กล่าวต่อว่า ก่อนที่ ร.ต.อ.ประภัสสร มุกดาวดี รอง สวป.สภ.เมืองนครพนม ซึ่งเป็นพ่อของตนและปู่น้องภัทรจะเสียชีวิต 2 เดือน ขณะนั้นตนได้ตั้งครรภ์ก่อนน้องภัทรจะลืมตาดูโลก ร.ต.อ.ประภัสสร ยังได้ตั้งชื่อน้องภัทรให้ชื่อว่า ด.ช.วีระพงศ์ กระทั่งคลอดก่อนกำหนด 7 เดือนเศษ จึงได้ลูกแฝดชาย-หญิง ปู่น้องภัทรทักตนว่าเดี๋ยวจะได้เจอกัน แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก
“กระทั่งวันหนึ่งขณะน้องภัทรอายุ 3 ขวบ ตนและนางศิวาพร มุกดาวดี แม่และย่าน้องภัทร ขับรถผ่านหน้า สภ.เมืองนครพนม น้องภัทรทักและชี้ว่านี่แหละที่ทำงาน จึงขับรถเข้าไปพร้อมกับชี้ไปที่ตึกว่าเคยทำงานอยู่ตรงนี้มาก่อน จนขนลุกซู่ไปหมด อีกทั้งน้องภัทรยังมีท่าทางลักษณะนั่งทำการบ้าน ยกแข้งยกขาคล้ายพ่อของตนทุกอย่าง ญาติหลายคนจึงเชื่อว่าพ่อตนกลับชาติมาเกิดเป็นน้องภัทร” น.ส.ประภาพร กล่าว
ด้าน นายวีระวัฒน์ กล่าว่า แม่ตนเสียชีวิตเมื่อปี 2552 แต่น้องภัทรและน้องภีม เกิดเมื่อปี 2555 ก่อนที่เด็กทั้ง 2 คนจะเกิด ตนฝันว่าแม่ของตนจะมาเกิดเป็นน้องภีม ฝ่ายเจ้าสาวในท้องของภรรยา แต่ไม่นึกว่าหลังเกิดมาแล้วจะมีลักษณะท่าทางเดินคล้ายกับแม่ตนทุกอย่าง จึงเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจเป็นอย่างมาก จึงปรึกษาญาติผู้ใหญ่ ก่อนจัดพิธีสมรสให้ เพื่อแก้เคล็ดตามความเชื่อให้บุตรทั้งคู่มีอายุยืนยาวต่อไป
