สลด! พระขับเก๋งตกแพข้ามฟากเขื่อนลำปาว จมหายทั้งคนทั้งรถ นักประดาน้ำค้นหากว่า 4 ชั่วโมง คาดเบรกไม่อยู่ พระที่นั่งมาด้วยกันเล่านาทีระทึก

เมื่อวันที่ 17 ส.ค.64 ร.ต.อ.เฉลิมพงษ์ สินธุไสย ร้อยเวร สภ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ รับแจ้งเหตุมีรถยนต์ตกจากแพข้ามเขื่อนลำปาวจมลงไปในน้ำ พร้อมคนขับ ซึ่งเป็นพระภิกษุสงฆ์ บริเวณแพข้ามฟากเขื่อนลำปาวพื้นที่ ต.เสาเล้า อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ หลังรับแจ้งจึงรายงานไปยัง พ.ต.อ.พงษ์ศักดิ์ วีระศิริ ผกก.สภ.หนองกุงศรี พร้อมประสานไปยังชุดประดาน้ำหน่วยกู้ภัยสามัคคีกตัญญูกาฬสินธุ์ หน่วยกู้ภัยกุดหว้า หน่วยกู้ภัยเมตตาธรรม หน่วยกู้ภัยสว่าง และเจ้าหน้าที่กู้ชีพเทศบาลตำบลลำคลอง รุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณจุดแพข้ามฟากเขื่อนลำปาว บ้านน้อยดอนหมวย ต.เสาเล้า อ.หนองกุงศรี เชื่อมต่อกับบ้านสะอาดนาทม ต.ลำคลอง อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ มีชาวบ้านมุงดูเหตุการณ์จำนวนมาก เจ้าหน้าที่และนักประดาน้ำ หน่วยกู้ภัยช่วยกันงมค้นหารถยนต์ และร่างของของพระภิกษุ ทราบชื่อต่อมาคือ พระคำกอง มูลสิทธิ์ อายุ 47 ปี พระลูกวัดบ้านนาสีนวล ต.เสาเล้า อ.หนองกุงศรี แต่ก็ยังไม่พบทั้งรถ ทั้งคน เนื่องจากบริเวณดังกล่าวน้ำค่อนข้างลึกกว่า 6 เมตร ประกอบกับไหลแรง จึงทำให้การค้นหาค่อนข้างลำบาก

ต่อมาญาติและชาวบ้าน พากันจุดธูปบอกกล่าวสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และขอขมาเจ้าที่เจ้าทาง ตลอดจนพระแม่คงคา อีกทั้งเจ้าหน้าที่และนักประดาน้ำกระจายกำลัง เรียงหน้ากระดานงมค้นหานานกว่า 4 ชั่วโมง จึงสามารถนำร่างของพระคำกอง และรถยนต์ขึ้นมาจากน้ำได้สำเร็จ ห่างจากจุดตกกว่า 100 เมตร

จากการสอบถามเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุพระคำกอง ขับรถยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า ซีวิค สีแดงเลือดหมู ทะเบียน กฉ6219 กาฬสินธุ์ มากับพระสะเทือน อาภัสโส อายุ 52 ปี พระวัดอัมพวันศรีบุญเรือง บ้านศรีบุญเรือง ต.เสาเล้า มาใช้บริการแพข้ามฟาก จากฝั่งบ้านน้อยดอนหมวย ต.เสาเล้า อ.หนองกุงศรี ไปข้ามไปยังฝั่งบ้านสะอาดนาทม อ.เมืองกาฬสินธุ์

โดยแพดังกล่าวเป็นลักษณะแพเหล็กกว้างประมาณ 6 เมตร และยาวประมาณ 8 เมตร ให้บริการรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และชาวบ้านข้ามฟาก โดยใช้แรงคนชักลอกข้ามฟาก ซึ่งระหว่างพระคำกองกำลังขับขึ้นไปบนแพ พร้อมกับพระสะเทือนที่นั่งข้างคนขับ แต่รถกลับเบรกไม่อยู่ ขับเลยแพออกไปจนตกลงไปในน้ำ ซึ่งพระสะเทือนสามารถออกมาได้ ระหว่างที่รถกำลังค่อยๆ จมน้ำ ส่วนพระคำกองจมหายไปพร้อมกับรถ

จากการสอบถาม พระสะเทือน อาภัสโส อายุ 52 ปี กล่าวว่า อาตมาและพระคำกอง จำพรรษาอยู่กันคนละวัด แต่อยู่ในตำบลเดียวกัน ก่อนเกิดเหตุ พระคำกองขับรถมารับที่วัด เพื่อไปรับกิจนิมนต์ฉันเพลที่บ้านญาติโยมใน ต.ลำคลอง อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ โดยใช้เส้นทางลัดนำรถขึ้นแพข้ามฟาก เพื่อย่นระยะทาง

ระหว่างที่พระคำกอง ซึ่งเป็นคนขับ และตนที่นั่งอยู่เบาะข้างคนขับ กำลังขับรถขึ้นบนแพ ปรากฏว่าอยู่ดีๆ รถเก๋งเหมือนกลับเบรกไม่อยู่ กำลังจะเลยแพ ซึ่งช่วงที่รถกำลังจะตกลงในน้ำเขื่อนลำปาว ตนจึงตะโกนเรียกให้พระคำกองออกจากรถ ก่อนที่อาตมาตัดสินใจกระโดดลงมาก่อนที่รถตกลงน้ำ รอดมาได้หวุดหวิด ส่วนพระคำกองออกมาไม่ทัน จมไปพร้อมกับรถและมรณภาพ

ด้านนางกาจน์ มูลสิทธิ์ อายุ 75 ปี ยายผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ทราบข่าวพระคำกอง ตกน้ำพร้อมกับรถ ตนตกใจอย่างมาก จึงรีบพากันมาจุดเกิดเหตุ สำหรับพระคำกองนั้นพ่อแม่เสียชีวิตแล้วไปหลายปี แม้บวชเป็นพระก็จะมาเยี่ยมและดูแลตนตลอด เพราะเป็นคนกตัญญู ซึ่งทราบว่าเพิ่งซื้อรถคันนี้มือสองมาใหม่ และเพิ่งขับรถเป็นได้ประมาณ 4-5 เดือน แต่บอกว่ารถมีปัญหา เบรกไม่ค่อยอยู่ ตนจึงเตือนและบอกให้รีบเอาไปซ่อม แต่ก็ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นก่อน ตนเสียใจมาก ยังทำใจไม่ได้

ขณะที่ร.ต.อ.เฉลิมพงษ์ สินธุไสย ร้อยเวร สภ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า จากการสอบถามพยานที่เห็นเหตุการณ์ทั้งพระที่มาด้วยกัน และคนดูแลแพ รวมทั้งพยานแวดล้อม เบื้องต้นคาดว่ารถคันดังกล่าวอาจจะมีปัญหาเรื่องเบรก จึงเบรกไม่อยู่ ขับเลยแพจนตกลงไปในน้ำเสียชีวิต ซึ่งภายหลังจากเจ้าหน้าที่นำศพขึ้นมา เบื้องต้นญาติไม่ติดใจ จึงมอบศพให้นำกลับไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาต่อไป

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน