แม่วัย 22 ร้องทุกข์ผู้ใหญ่บ้าน แบ๊คโฮทำรังต่อหัวเสือร่วง รุมต่อยทั่วร่าง ลูก 3 ขวบอาการสาหัส หมอต้องเจาะคอ ล้างไต ถามหาความรับผิดชอบ ได้แต่กระเช้า
เมื่อวันที่ 18 ส.ค. 2564 น.ส.ปนัดดา เพชรอาวุธ อายุ 22 ปี ชาวจ.กระบี่ นำหลักฐานแจ้งความลงบันทึกประจำวัน เข้าขอความช่วยเหลือกับผู้ใหญ่บ้าน ม.9 ต.คลองน้อย อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี จากกรณีผู้รับเหมาทำถนนขับรถแบ๊คโฮ ทำรังต่อหัวเสือขนาดใหญ่แตกร่วงลงพื้น ทำให้ฝูงตัวต่อแตกรังมาต่อยตัวเองและลูกชายวัย 3 ขวบ ได้รับบาดเจ็บสาหัสแต่ปัดความรับผิดชอบ
น.ส.ปนัดดา เปิดเผยว่า เหตุเกิดเมื่อช่วงเวลา 17.40 น. วันที่ 14 ส.ค. 64 บริเวณถนนสายนางสาวอำพร ม.9 ต.คลองน้อย อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งผู้รับเหมากำลังเจ้าดำเนินการโครงการปรับถนนของ อบต.คลองน้อย และได้ใช้รถแบ๊คโฮทำให้พื้นสะเทือน รังต่อหัวเสือที่อยู่บนต้นกระท้อนจึงตกลงมา
ขณะนั้นตนขี่รถจยย. พาลูกซ้อนท้ายผ่านมาจึงถูกตัวต่อจำนวนมากรุมต่อยตนจึงได้เร่งเครื่องรถจยย. ขี่หนีเข้าไปขอความช่วยเหลือกับคนขับรถแบ๊คโฮคันดังกล่าว ที่ไม่ได้รับอันตรายเพราะอยู่ในห้องคนขับที่ปิดประตูมิดชิด ให้ช่วยนำส่ง รพ.สุราษฎร์ธานี
น.ส.ปนัดดา กล่าวต่อว่า ตนถูกตัวต่อจำนวนมากรุมต่อยทั่วตัว แพทย์ได้ฉีดยาแก้แพ้ให้ 2 เข็ม และให้กลับรักษาตัวที่บ้าน แต่ก็ยังมีร่องรอยการบวมที่แก้มและมีรอยการถูกต่อยทั่วตัว ส่วนลูกชายมีอาการแพ้อย่ารุนแรงตอนนี้ต้องรักษาตัวอยู่ในห้องฉุกเฉิน แพทย์ต้องทำการเจาะคอและต้องล้างไต แต่ยังไม่ได้เข้าเยี่ยมหรือเฝ้าอาการของลูกชายด้วยตัวเองได้เนื่องจากมาตรการ โควิด-19
จากนั้นเมื่ออาการบาดดีขึ้นตนจึงได้รีบเดินทางเข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันที่สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ไว้เมื่อวันที่ 15 ส.ค. 64 และได้สอบถามไปทางผู้รับเหมาในเรื่องความรับผิดชอบกลับปฏิเสธ นำกระเช้ามาเยี่ยมเพียงครั้งเดียวเท่านั้น จึงได้เข้าร้องเรียนกับทางผู้ใหญ่บ้านและผู้สื่อข่าวเพื่อขอความเป็นธรรม
ด้านนายมานัส อินทร์เมือง ผู้ใหญ่บ้าน ม.9 กล่าวว่า หลังจากได้รับแจ้งเรื่องได้เดินทางพร้อมผู้บาดเจ็บและกลุ่มญาติไปดูที่เกิดเหตุ พบว่ารังต่อหัวเสือยู่บนต้นกระท้อนสูงประมาณ 7 เมตร และยังมีเศษรังบางส่วนติดอยู่กับต้น
จากการสอบถามรายละเอียดเบื้องต้นทราบว่า ทางผู้รับเหมาได้บอกกับผู้บาดเจ็บว่ารังต่อหัวเสือเป็นรังต่อที่เจ้าของสวนเลี้ยงไว้ แต่เมื่อตนเองสอบถามไปยังเจ้าของสวนซึ่งไม่ได้อยู่อาศัยที่สวนดังกล่าว ก็ได้รับคำตอบว่ารังต่อที่ต้นกระท้อนเป็นรังต่อธรรมชาติไม่ได้เป็นรังต่อเลี้ยงแต่อย่างใด ซึ่งหลังจากนี้จะได้ดำเนินการและประสานเพื่อหาผู้รับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อไป
