สามีช็อก แฟนสาวบุกเดี่ยวชิงทอง งงไม่น่าคิดสั้น ตร.ออกหมายจับแล้ว เผยเพิ่งลงทุนเตรียมเปิดร้านจิ้มจุ่ม แต่เจอโควิด-19 จึงยังไม่ได้เปิดร้าน

กรณี น.ส.สวรส (สงวนนามสกุล) อายุ 38 ปี บุกเดี่ยวเข้าชิงสร้อยข้อมือทองคำ น้ำหนัก 3 บาท 1 เส้น น้ำหนัก 2 บาท 1 เส้น รวม 5 บาท ที่ร้านทองพลอยไพลิน ตลาดเก่า เทศบาลตำบลเมืองแกลง ต.ทางเกวียน อ.แกลง จ.ระยอง ทำทีขอดู สบโอกาสเจ้าของร้านเผลอ วิ่งขึ้นรถยนต์ เก๋ง โตโยต้า วีออส ที่ติดทะเบียนปลอม

ก่อนขับหนีไปแล้วไปเกิดอุบัติเหตุชนกระถางต้นไม้ริมถนนสายวังหว้า-แหลมแม่พิมพ์ ต.วังหว้า อ.แกลง จ.ระยอง จนรถพังเสียหาย ก่อนจะขโมยรถจยย. ยามาฮ่า ฟีโน่ ทะเบียน กตธ-257 ระยอง ขับรถหนีไป

ตรวจสอบภายในรถ พบเสื้อยืดสีดำที่ใส่ก่อเหตุทิ้งในรถ พร้อมสร้อยทองปลอม1เส้น ตกอยู่ในรถ พร้อมสำเนาบัตร ประชาชน และ บัตรผ่านเข้าออกโรงวานแห่งหนึ่งในจ.ระยอง ตามข่าวที่นำเสนอไปแล้ว

ความคืบหน้าเรื่องดังกล่าว เมื่อเวลา 9.30 น. วันที่ 20 ส.ค.64 พ.ต.อ.ประติพัตน์ ภูมิลี ผกก.สภ.แกลง ระยอง กล่าวว่า หลังการตรวจสอบหลักฐานจนทราบชื่อ คนร้ายรายนี้ ชื่อ น.ส.สวรส อายุ 38 ปี อยู่ ต.ตะพง อ.เมือง จ.ระยอง ซึ่งล่าสุด ศาลได้อนุมัติ หมายจับ เลขที่153/2564 ลงวันที่ 19 ส.ค.64 โดยแจ้ง2ข้อหา วิ่งราวทรัพย์ และ ลักทรัพย์

โดยหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามคนร้ายไปจนพบกับ รถจยย.ที่คนร้ายขโมยใช้ขับหลบหนี ไปจอดทิ้งอยู่ในซอย ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 3 กม.โดยเห็นรอยเท้าของคนร้ายวิ่งหนีไปทางสวนทุเรียนริมถนน เจ้าหน้าที่จึงรีบตามไปแต่ยังไม่พบตัว คาดคงจะโทรเรียกให้คนมารับหลบหนีไป

ด้าน ร.ต.อ.สุภาพ เสียงดี รอง(สส)สภ.แกลง ระยอง กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.แกลง ได้ เดินทางไปตรวจสอบบ้านของคนร้าย ซึ่งเป็นร้านขายจิ้มจุ่ม ชื่อร้านสบายดี เลขที่ 903/3 ต.เชิงเนิน อ.เมือง จ.ระยอง พบกับ สามีของคนร้าย ซึ่งเพิ่งเลิกงานกลับมา โดยไม่พบตัวคนร้าย

สอบสวน สามีของคนร้าย ให้การว่า ตนเองรู้สึกช็อกมาก คิดไม่ถึงว่าจะลงมือก่อเหตุ โดยตนเองเพิ่งอยู่กินกับคนร้ายประมาณ 2 ปี และ เพิ่งลงทุนเตรียมเปิดร้านขายจิ้มจุ่ม แต่มาเจอสถานการณ์โควิด19 จึงยังไม่ได้เปิดร้าน ส่วนสาเหตุที่ลงมือก่อเหตุตนเองไม่ทราบเรื่องเลย ไม่น่าคิดสั้นลงมือก่อเหตุ

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้กระจายกำลังไปตรวจสอบตามบ้านญาติ และ บ้านเพื่อนของคนร้าย พร้อมตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางใกล้กับจุดที่คนร้ายทิ้งรถจยย.ไว้ ล่าสุดยังไม่พบตัวคนร้าย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน