อธิบดีน้ำบาดาล เผยผลตรวจวิเคราะห์น้ำ ใกล้โรงงานหมิงตี้ รอบที่ 2 รัศมี 5 กม. พบไม่กระทบแหล่งน้ำบาดาล ยืนยันสามารถบริโภคได้อย่างปลอดภัย แต่น้ำผิวดินยังมีสไตรีนสูง

เมื่อวันที่ 20 ส.ค. 2564 นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) เผยผลการตรวจสอบคุณภาพน้ำบาดาลและน้ำผิวดิน บริเวณรอบโรงงานผลิตเม็ดโฟม และพลาสติก บริษัท หมิงตี้ เคมีคอล จำกัด หลังเกิดเหตุระเบิดและเพลิงไหม้ หลังมอบหมายให้ สำนักอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรน้ำบาดาลและกองวิเคราะห์น้ำบาดาล

ลงพื้นที่เก็บตัวอย่างน้ำบาดาลและน้ำผิวดิน ในรัศมี 1-5 กิโลเมตร บริเวณรอบโรงงานนำไปตรวจวิเคราะห์คุณลักษณะทางด้านกายภาพและเคมี คุณลักษณะ ที่เป็นพิษ และสารอินทรีย์ระเหยง่าย (Volatile Organic Compound : VOCs) เพื่อติดตามสถานการณ์คุณภาพดินและน้ำอย่างต่อเนื่อง และเฝ้าระวังป้องกันไม่ให้มีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในพื้นที่

ผลการตรวจสอบคุณภาพน้ำบาดาลและน้ำผิวดินรอบที่ 1 เก็บตัวอย่างในช่วงก.ค. ที่ผ่านมา พบว่าคุณภาพน้ำผิวดินบริเวณในโรงงานมีสารอินทรีย์ระเหยง่ายประเภทเบนซีน เอทธิลเบนซีน สไตรีนโทลูอีน และไซลีนทั้งหมด โดยเฉพาะสไตรีนมีค่า 176 – 19,210 ไมโครกรัมต่อลิตร ซึ่งมีปริมาณค่อนข้างสูงมาก

ส่วนน้ำบาดาลตรวจพบสารอินทรีย์ระเหยง่ายประเภทโทลูอีน 11.0-24.1 ไมโครกรัม/ลิตรและไซลีนทั้งหมด 5.2-12.4 ไมโครกรัม/ลิตร ซึ่งมีปริมาณน้อยมาก เมื่อเทียบกับค่ามาตรฐานน้ำใต้ดินที่กำหนดไว้ว่าต้องไม่เกิน 100 ไมโครกรัมต่อลิตร น้ำบาดาลจึงอยู่ในเกณฑ์ปลอดภัย และมีการติดตามตรวจสอบและเฝ้าระวังเรื่อยมาอย่างต่อเนื่อง

สำหรับผลการตรวจสอบคุณภาพน้ำบาดาลและน้ำผิวดินรอบที่ 2 ในครั้งนี้ ยังคงตรวจพบ ปริมาณสารอินทรีย์ระเหยง่ายประเภทเบนซีน เอทธิลเบนซีน สไตรีน โทลูอีน และไซลีนทั้งหมด มีปริมาณค่อนข้างสูง โดยเฉพาะสไตรีนมีค่า 72 – 12,112 ไมโครกรัมต่อลิตร ในตัวอย่างน้ำผิวดินที่เก็บจากบริเวณในโรงงาน

แต่ไม่พบปริมาณสารอินทรีย์ระเหยง่ายในตัวอย่างน้ำบาดาลที่เก็บตัวอย่างจากบ่อเอกชนและบ่อสังเกตการณ์น้ำบาดาล ดังนั้น จากผลวิเคราะห์น้ำบาดาลในครั้งที่ 2 นี้ สามารถยืนยันได้ว่าแหล่งน้ำบาดาลในพื้นที่โดยรอบโรงงานหมิงตี้ มีคุณภาพน้ำดี ปลอดภัยสำหรับประชาชนสำหรับใช้อุปโภคบริโภคอย่างแน่นอน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน