บุกจับปาร์ตี้วิลล่าหรูเกาะสมุย มั่วสุมชั้นใต้ดิน ไม่สนโควิด รวบได้ 24 คน แยกเป็นคนต่างชาติ 11 คน และคนไทย 13 คน ค้นเจอยาเสพติด
วันที่ 21 ส.ค. 64 ที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี นายธีระพงศ์ ช่วยชู นายอำเภอเกาะสมุย ในฐานะประธานศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคอำเภอเกาะสมุย สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเกาะสมุย ร่วมกับ กอ.รมน.ภาค4 พื้นที่เกาะสมุย ตำรวจ สภ.บ่อผุด ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสุราษฎร์ธานี และตำรวจท่องเที่ยวเกาะสมุย บุกทลายปาร์ตี้มั่วสุมไม่สนโควิดในวิลล่าหรู บนเขาปลายแหลมซอย8 ม.5 ต.บ่อผุด
เจ้าหน้าที่ได้สืบทราบมาว่าจะมีการจัดปาร์ตี้ขึ้นในคืนนี้ โดยได้โพสต์ข้อความเชิญชวนกันทางแอปพลิเคชั่นไลน์ เมื่อเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบพบว่าบริเวณจอดรถวิลล่าหลังดังกล่าว มีทั้งรถจักรยานยนต์ รถยนต์จอดอยู่หลายคัน และได้ยินเสียงเพลงดังมาจากภายในบ้าน จึงเข้าไปตรวจสอบพบว่าที่ห้องชั้นใต้ดินมีการจัดปาร์ตี้กันจริง ทุกคนกำลังดื่ม เปิดเพลงเสียงดังเต้นกันอย่างสนุกสนาน
เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเข้าจับกุมนักปาร์ตี้ได้ทั้งหมด 24 คน แยกเป็นคนต่างชาติ 11 คน และคนไทย 13 คน จากการตรวจค้นพบว่ามีนักเที่ยวชายชาวฝรั่งเศส 1 คน และหญิงชาวฟิลิปปินส์ 1 คน แอบซุกซ่อนยาเสพติดโคเคนอยู่ในกระเป๋าสตางค์และกระเป๋าถือ
จากนั้นจึงได้ยึดของกลางได้แก่ ใบเสร็จ จำนวน 1 เล่ม เมนูราคาขายเครื่องดื่ม จำนวน 2 แผ่น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (เบียร์,สุรา,ไวน์) จำนวน 89 ขวด พร้อมกับควบคุมผู้ต้องหาทั้งหมด 24 คน มาสอบปากคำที่ สภ.บ่อผุด
โดยเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้แจ้งดำเนินคดีกับนักปาร์ตี้ทั้ง 24 คน ในข้อกล่าวหาว่า ร่วมกันฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน (เกี่ยวกับโรคระบาด) ในลักษณะมั่วสุมก่อให้เกิดโรคระบาด ,ร่วมกันฝ่าฝืน พ.ร.บ.ควบคุมโรคฯ ตามคำสั่งของ ผวจ.สุราษฎร์ธานี ที่ 5229/2564 ฉบับที่ 59
แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มกับหญิงสัญชาติฟิลิปปินส์ ข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคเคน) ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย (น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้ม 0.67. กรัม) และชาย สัญชาติฝรั่งเศส ข้อหา มียาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคเคน) ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย (น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้ม 0.90 กรัม) และนายชายเดียว (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี
ตรวจสอบประวัติกระทำผิดพบว่าเป็นบุคคลตามหมายจับศาลอาญาตลิ่งชัน ที่129/2564 ลง 8 เม.ย. 2564 กระทำผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน และนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 24 ราย พร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ่อผุด ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป