เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ ตงเต๊า ผบก.น.8 พร้อมด้วย พ.ต.ท.พจน์ บำรุงชาติ รอง ผกก.สส.สน.ราษฎร์บูรณะ พ.ต.ท.ชรินทร์ บัวเผื่อนหอม รอง ผกก.ป.สน.ราษฎร์บูรณะ พ.ต.ท.ทศพล โชติคุตร์ รอง ผกก.ป.สน.บางมด และ พ.ต.ท.อดุลย์ ดอกพวง รอง ผกก.สส.สน.บางมด สนธิกำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจ ฝ่ายสืบสวน และตำรวจจราจร ไล่ติดตามจับกุมตัว นายศักดิ์ชัย น้อมระวี อายุ 49 ปี พร้อมอาวุธปืนยี่ห้อสมิทแอนด์เวสสัน ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก เครื่องกระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 14 นัด ปลอกกระสุนที่ยิงไปแล้วคาอยู่ในลูกโม่ 1 ปลอก ซองพก 1 อัน และ รถแท็กซี่ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอัลติส สีชมพู ของสหกรณ์แท็กซี่อาสาสมัคร จำกัด ทะเบียน ทศ1839 กรุงเทพมหานคร ซึ่งใช้ก่อเหตุ 1 คัน โดยจับกุมตัวได้ที่ถนนเลียบทางด่วนพระราม 2 ข้างโรงแรมมดอินน์ ถนนพระราม 2 แขวงบางมด เขตจอมทอง กทม.
พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจากเมื่อเวลา 09.30 น. ที่ผ่านมา ศูนย์วิทยุสุขสวัสดิ์ ได้รับแจ้งเหตุมีโชเฟอร์รถแท็กซี่ ทราบชื่อภายหลังคือนายศักดิ์ชัยผู้ต้องหารายนี้ที่อยู่ในอาการมึนเมาสุราอย่างหนัก ขับรถแท็กซี่ สีชมพู หมายเลขทะเบียน ทศ1839 กรุงเทพมหานคร ไปเฉี่ยวชนกับ รถจักรยานยนต์ของน.ส.วรรณนิสา กาดประสิทธิ์ อายุ 33 ปี ชาวบ้านในซอยสุขสวัสดิ์ 38 เป็นเหตุให้ด.ช.อายุ 5 ขวบลูกชายน.ส.วรณนิสา ซึ่งโดยสารมากับรถได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะบวมปูด
โดยขณะนั้นมีพลเมืองดีเห็นเหตุการณ์กันหลายคน มีอยู่ 2-3 คน พยายามขับขี่รถไล่ตามเพื่อเรียกให้นายศักดิ์ชัยหยุดรถลงไปรับผิดชอบ แต่นายศักดิ์ชัยกลับเร่งเครื่องหนีออกจากซอยไปตามถนนสุขสวัสดิ์และเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนพระราม 2
“เมื่อรถแท็กซี่ของนายศักดิ์ชัยแล่นผ่านไปถึงทางเข้าสำนักงานเขตจอมทอง ช่วงถนนพระราม 2 ปากซอย 3 โดยมีกลุ่มพลเมืองดี ขี่รถจยย.ตามมาอย่างกระชั้นชิดนายศักดิ์ชัยคงเห็นว่าจวนตัว จึงตัดสินใจลดกระจกลงแล้วชักอาวุธปืนยิงใส่กลุ่มพลเมืองดี 1 นัด เพื่อสกัดไม่ให้ติดตาม โชคดีที่กระสุนไม่ถูกใคร จากนั้นนายศักดิ์ชัย ก็เร่งเครื่องขึ้นไปสู่หน้าด่านเก็บเงินถนนพระราม 2 หวังจะขึ้นทางด่วนหลบหนี แต่ด้วยความเมาสุราอย่างหนักทำให้ควบคุมรถไม่ไหว จึงเกิดเสียหลักเฉี่ยวชนกับขอบทางจนยางหน้าด้านซ้ายแตก และตัวถังรถซีกซ้ายได้รับความเสียหาย ต้องยอมจอดรถทิ้งไว้บริเวณช่องทางเดินรถฝั่งซ้ายก่อนเข้าสู่ด่านเก็บเงิน ก่อนที่นายศักดิ์ชัยพยายามตะเกียกตะกายปีนรั้วออกจากถนนหน้าด่านเก็บเงิน แล้วมาเรียกรถแท็กซี่อีกคันเพื่อหลบหนีต่อ เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ตำรวจ สน.ราษฎร์บูรณะ และ สน.บางมด รุดไปถึงที่เกิดเหตุพอดีจึงควบคุมตัวนายศักดิ์ชัยเอาไว้ได้พร้อมของกลาง ในสภาพเมามายไม่ได้สติ” พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ กล่าว
จากการสอบถาม นายวิสุทธิมรรค ฤทธิ์นอก อายุ 21 ปี หนึ่งในกลุ่มพลเมืองดีที่เกือบเอาชีวิตไม่รอด กล่าวว่า ตนมีอาชีพขับรถจยย.รับจ้างวินซอยสุขสวัสดิ์ 38 เบอร์ 160 ก่อนเกิดเหตุขี่รถรับส่งผู้โดยสารในซอยตามปกติ เห็นนายศักดิ์ชัยเดินโซเซคุมตัวเองไม่ไหว ด้วยความเมาอยู่ในซอยตั้งแต่ช่วงเช้า กระทั่งนายศักดิ์ชัยฝืนขับรถแท็กซี่ออกจากที่พัก ไปเฉี่ยวชนกับรถของคู่กรณีบริเวณกลางซอย ตนและเพื่อนๆ ในวินเดียวกันอีก 3 คน จึงตัดสินใจบิดเร่งเครื่องรถติดตามไป หวังจะให้จอดตกลงค่าเสียหายกับคู่กรณี ไม่คิดว่านายศักดิ์ชัยจะมีอาวุธปืนติดมาด้วยในรถ แต่ก็ถือว่าโชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากคมกระสุนของนายศักดิ์ชัยจากเหตุการณ์นี้
เบื้องต้นชุดจับกุมได้ส่งตัวนายศักดิ์ชัยให้พนักงานสอบสวนสน.ราษฎร์บูรณะ แจ้งข้อหาพยายามฆ่า, พาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปในเมืองหมู่บ้านและทางสารธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต, ยิงปืนในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร, เมาสุราขณะขับขี่ยานพาหนะเฉี่ยวชนผู้อื่นได้รับบาดเจ็บมีทรัพย์สินได้รับความเสียหาย โดยไม่หยุดรถให้ความช่วยเหลือ ก่อนส่งตัวนายศักดิ์ชัยไปตรวจร่างกายหาสารเสพติดอย่างละเอียดอีกครั้ง
หากพบว่ามีการเสพยาก็จะแจ้งข้อหาเพิ่มเติม ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุนั้นจะต้องส่งกองพิสูจน์หลักฐานดำเนินการตรวจสอบว่าเป็นของผู้ใด หากไม่ใช่ของนายศักดิ์ชัยก็จะถูกแจ้งข้อหาครอบครองอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต ด้วยอีก 1 คดี
