คณะกรรมการควบคุมโรคฯ ชัยภูมิ เตรียมแจ้งความดำเนินคดี ร.ต.ท.ติดโควิด ไม่ยอมเข้ารักษา แพร่เชื้อเมีย-พ่อตาป่วยติดเตียง-แม่ยาย จนท.รุดเจรจา 2 วันจนยอมไป รพ.
เมื่อวันที่ 31 ส.ค. 2564 นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิ มอบหมายให้นิติกรสำนักงานร่วมกับสาธารณสุขอำเภอเมืองชัยภูมิ เตรียมเข้าแจ้งความเอาความผิดกับ ร.ต.ท.เมืองปทุมธานี ติดโควิด-19 แล้วกลับมาหาภรรยาที่ อ.เมืองชัยภูมิ นำเชื้อมาติดทั้งภรรยา แม่ยาย พ่อตา ขณะนี้นำตัวทั้ง 4 คน เข้ารักษาแล้ว
ส่วนพี่ชายภรรยาที่อยู่บ้านหลังเดียวกันตรวจครั้งแรกผลเป็นลบยังไม่ติด อยู่ระหว่างถูกกักตัว 14 วัน และตรวจหาโควิด-19 อีก 2 ครั้ง หากไม่ติดจึงจะไปใช้ชีวิตตามปกติได้ ส่วน ร.ต.ท.เมืองปทุมธานี แม้จะมีหนังสือให้มารักษาตัวที่บ้านที่ จ.ชัยภูมิ แต่ไม่รักษาอยู่คนเดียว จะต้องมีความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งจะมีความผิดทั้งทางวินัยและอาญา
อ่านข่าว ชาวบ้านรุมจวก ร.ต.ท.สุดมึน ติดโควิดกลับชัยภูมิ แพร่ครอบครัว ไม่ยอมบอก ไม่เข้ารักษา
นพ.วชิระ บถพิบูลย์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิ ในฐานะโฆษกคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดชัยภูมิ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 28 ส.ค. มี ร.ต.ท.คนหนึ่ง ประจำ สภ.เมืองปทุมธานี ตรวจพบติดเชื้อโควิด-19 เมื่อวันที่ 25 ส.ค. ที่ รพ.ตำรวจ แต่ไม่เข้ารับการรักษา และขับรถกลับมาบ้านภรรยาที่ จ.ชัยภูมิ บ้านเลขที่ 66 ม.11 บ้านคร้อ ต.นาฝาย อ.เมืองชัยภูมิ โดยไม่บอกใคร ทั้งยังใช้ชีวิตปกติ ไม่กักตัว และออกไปข้างนอก
ต่อมาวันที่ 26 ส.ค. ลูกชายที่กรุงเทพฯ โทรมาแจ้งผู้ใหญ่บ้านทราบเรื่องว่าพ่อตรวจพบเชื้อโควิด แต่ไม่ยอมรักษา ทำให้เกิดเรื่องวุ่นทั้งหมู่บ้าน ด้านผู้ใหญ่บ้านคร้อ หมู่ 11 ต.นาฝาย ได้ประสานเจ้าหน้าที่ รพ.สต.นาฝาย และ สภ.เมืองชัยภูมิ ลงพื้นที่บ้านหลังดังกล่าว พบภรรยา พ่อตา แม่ยาย พี่ชายภรรยา และ ร.ต.ท.คนดังกล่าว อาศัยอยู่ในบ้านเดียวกัน รวม 5 คน
จากนั้นวันที่ 27 ส.ค. แม่ยายและญาติได้เข้าตรวจหาเชื้อ ผลตรวจแม่ยายพบเป็นบวก ส่วนพี่ชายภรรยาผลเป็นลบ จึงให้กักตัวอยู่ที่บ้านรอดูอาการ 14 วัน และต้องเข้าตรวจโควิด-19 ซ้ำอีก 2 ครั้ง ส่วนพ่อตาเป็นผู้ป่วยติดเตียง ยังไม่ได้เข้าตรวจ ขณะที่ ร.ต.ท. และภรรยา ได้ขับรถออกจากบ้านในช่วงเช้า และกลับเข้าบ้านในเวลา 15.30 น. โดยบอกว่าเป็นผู้ป่วยในกลุ่มสีเขียว ขอมารักษาตัวอยู่ที่บ้าน แต่ไม่ยอมเข้าตรวจอีกครั้ง และหลบหน้าอยู่ในบ้านไม่ยอมเจรจากับใคร ทั้งตำรวจ สภ.เมืองชัยภูมิ เจ้าหน้าที่ รพ.สต.นาฝาย และผู้ใหญ่บ้าน
กระทั่งเวลา 20.30 น. วันที่ 27 ส.ค. สภ.เมืองชัยภูมิ เจ้าหน้าที่ รพ.สต.นาฝาย และผู้ใหญ่บ้าน ได้เข้าพบ ร.ต.ท.อีกครั้ง จนถึงเวลา 21.00 น. ทั้ง ร.ต.ท. และภรรยา ได้ยอมเก็บเสื้อผ้าขึ้นรถพยาบาลโรงพยาบาลชัยภูมิ ไปรักษาตัว ต่อมารุ่งเช้าวันที่ 28 ส.ค เจ้าหน้าที่ได้นำแม่ยายและพ่อตาที่เป็นผู้ป่วยติดเตียงเข้าตรวจโควิด-19 ผลออกมาเช้าวันที่ 30 ส.ค. พบติดโควิดทั้ง 2 คน จึงนำส่งรักษาที่โรงพยาบาลชัยภูมิ รวมมีผู้ติดโควิด-19 จำนวน 4 คน ส่วนพี่ชายภรรยาอยู่ระหว่างถูกกักตัว 14 วัน
นพ.วชิระ กล่าวต่อว่า เคสดังกล่าวถือเป็นอุทาหรณ์ ที่เดินทางมาจากต่างจังหวัดแล้วไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนด ทำให้เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ขณะนี้ได้ให้นิติกรประจำสำนักงาน ร่วมกับสาธารณสุขอำเภอเมืองชัยภูมิ เตรียมเข้าแจ้งความเอาความผิดกับ ร.ต.ท.คนดังกล่าว ตามความผิด พ.ร.ก.ควบคุมโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 มาตรา 34 ที่ไม่ยอมแยกตัวเข้ารับการรักษา หากเป็นข้าราชการต้องมีความผิดเป็น 2 เท่า ทั้งวินัยและอาญา แม้จะมีหนังสือส่งตัวมาก็ต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล หากไม่เข้ารับการรักษาจะเป็นการนำเชื้อมาติดให้กับคนอื่น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 31 ส.ค. จ.ชัยภูมิ พบผู้ป่วยโควิดเพิ่ม 50 ราย ติดเชื้อในจังหวัด 18 ราย ผู้ป่วยมาจากต่างจังหวัด 32 ราย รวมผู้ป่วยสะสม 8,056 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย เสียชีวิตสะสม 68 ราย หายป่วยเพิ่ม 89 ราย หายป่วยสะสม 5,472 ราย ผู้ป่วยยังรักษาตัวใน รพ.สนาม 415 ราย
