กลุ่มวิสาหกิจชุมชนฯ นำร่องปลูกกัญชาหลังได้รับอนุญาตจาก อย. เก็บผลผลิตล็อตแรก เจอวิกฤตโควิด-19 หนัก ผลกระทบเป็นลูกโซ่ ราคาลดลงฮวบ ลูกค้ายกเลิกออเดอร์
วันที่ 3 ก.ย.2564 ที่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มผลิตปุ๋ยอินทรีย์ บ้านหนองห้าง หมู่ 8 ต.น้ำผุด อ.เมือง จ.ตรัง นายศิววงศ์ นวลสุวรรณ ประธานกลุ่มฯ พร้อมด้วย นางกาญจนา สมะพงษ์ ผอ.รพ.สต.น้ำผุด นายเนติวิทย์ ขาวดี อดีตปลัดอาวุโส อำเภอกันตัง ประธานสภากัญชาแห่งประเทศไทยประจำ จ.ตรัง และสมาชิกกลุ่มวิสาหกิจชุมชนฯ ร่วมกันเก็บเกี่ยวผลผลิตจากกัญชา ซึ่งได้ปลูกไว้เมื่อวันที่ 6 พ.ค.2564 ที่ผ่านมา 50 ต้นแบบระบบปิดในโรงเรือนมี กว้าง 4 เมตร ยาว 12 เมตร ตามมาตรฐานขององค์การอาหารและยา
นายศิววงศ์ กล่าวว่า วันนี้กลุ่มวิสาหกิจชุมชนมาเก็บเกี่ยวผลผลิตกัญชาล็อตแรก หลังจากที่ปลูกได้ประมาณ 4 เดือน ผลผลิตที่ได้เป็นที่น่าพอใจระดับหนึ่งถือว่าเป็นการศึกษาเรียนรู้ ทดลอง เราจะได้นำปัญหาและอุปสรรคที่ผ่านมาไปปรับปรุงในล็อตต่อไป กัญชาที่ปลูกคือ สายพันธุ์หางกระรอก โดยกรมแพทย์แผนไทยมอบเมล็ดพันธุ์ ให้ทางกลุ่มฯรวม 15 คน หลังจากเกี่ยวผลผลิตวันนี้แล้วจะประสานไปยังกรมแพทย์แผนไทยมารับซื้อผลผลิตเพื่อข้าสู่กระบวนการแปรรูปต่อไป
“ราคาในตลาดซื้อขายตอนนี้ยังไม่ได้กำหนดเป็นมาตรฐาน จากเดิมก่อนหน้านี้ราคาหลักหมื่นปลายๆ แต่ตอนนี้ราคาลดฮวบเหลือหลักพันต่อ 1 ก.ก. ตามระเบียบที่กฎหมายกำหนด ในส่วนของช่อดอกหัว หรือ (กะหรี่) และเมล็ด ทางองค์กรเภสัชกรรม จะรับซื้อไปผลิตเพื่อกลั่นเป็นน้ำมันกัญชา และเป็นยารักษาโรคแพทย์ทางเลือก ในส่วนที่ทางกลุ่มสามารถนำไปจำหน่ายได้ คือ ต้น ใบ ราก กิ่งก้าน แต่ตอนนี้ก็ประสบปัญหาจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ตลาดผู้บริโภคลดน้อยลง ได้รับผลกระทบเป็นลูกโซ่ลูกค้าที่สั่งจองไว้ก่อนหน้าโทรยกเลิกออเดอร์ไม่มีรายได้ที่จะซื้อกัญชาไปประกอบการอาหาร หรือแปรรูปต่างๆ ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายก็ต้องหยุดชะงักไป และหากผู้ที่สนใจปลูกกัญชานั้นต้องศึกษาขั้นตอนระเบียบอีกเยอะ เพราะกัญชาถูกกฎหมายถือเป็นเรื่องใหม่
ด้าน นายเนติวิทย์ กล่าวด้วยว่า จังหวัดตรัง บ้านเราได้รับการอนุญาตให้ปลูกจาก อย. จำนวน 4 แปลง ขณะนี้ทั้ง 10 อำเภอ กำลังดำเนินการขออนุญาตอยู่ สำหรับคนที่สนใจปลูกสิ่งแรกที่ต้องทำคือการจดทะเบียนเป็นวิสาหกิจชุมชนก่อน และยื่นเรื่องขออนุญาตไปยังสาธารณสุขจังหวัด คณะกรรมการจะมาตรวจและส่งเรื่องไปยัง อย.และอนุมัติต่อไป
” สำหรับสรรพคุณทางยาสามารถรักษาโรคที่สำคัญ 4 โรค เช่นมะเร็ง สมองเสื่อม ขณะนี้กัญชายังเป็นยาเสพติดอยู่ หากใครสนใจจะปลูกต้องขออนุญาตให้ถูกต้องตามกฎหมาย อนาคตตนมองว่ากัญชายังสามารถเติบโตได้อยู่เพราะนอกจากนำไปแปรรูปประกอบอาหาร น้ำดื่ม แล้ว ที่สำคัญเราต้องใช้เป็นยารักษาโรคซึ่งปัจจุบันกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เตรียมขยายการให้บริการคลินิกกัญชาทางการแพทย์แผนไทย ตั้งเป้ารพ.ของรัฐ ครอบคลุมผู้ป่วยเข้าถึงบริการทั่วประเทศกว่า 650 แห่ง ”
