เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. ที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง ในอ.บ่อไร่ จ.ตราด นายประเมิน ทองพร่อง ผู้อำนวยการโรงเรียน พร้อมครู 2 คน และนายปราโมทย์ (สงวนนามสกุล) ผู้ปกครองนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ร่วมประชุมทำความเข้าใจ กรณีที่ลูกชายของนายปราโมทย์ไม่ได้ไปทัศนศึกษาที่จ.ชลบุรี หลังจากไม่มีเอกสารยินยอมจากผู้ปกครอง และถูกปล่อยให้อยู่โรงเรียนเพียงลำพัง จากนั้นลูกชายของนายปราโมทย์ได้เดินเท้ากลับบ้านเองในเวลา 04.00 น. ก่อนจะไปขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านด้วยการขอยืมโทรศัพท์เพื่อโทรหานายปราโมทย์ผู้เป็นพ่อให้มารับกลับบ้าน ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับพ่อของเด็กนักเรียนเป็นอย่างมาก
นายปราโมทย์ กล่าวว่า วันเกิดเหตุตนได้ขับรถยนต์จากบ้านระยะทาง 4-5 กิโลเมตร มาส่งลูกชายที่โรงเรียนสระใหญ่ เพื่อไปทัศนศึกษาที่จ.ชลบุรี โดยมาถึงโรงเรียนเวลา 03.30 น. ซึ่งรถจะออกจากโรงเรียนในเวลา 04.00 น. และเมื่อมาถึงโรงเรียนได้แจ้งให้ครูคนหนึ่งทราบว่า ไม่ได้นำหนังสือยินยอมติดมาด้วย จะมีปัญหาเรื่องการไปทัศนศึกษาหรือไม่ ซึ่งครูแจ้งว่าไม่มีปัญหา ตนจึงส่งลูกไว้กับครู แล้วขับรถกลับบ้าน
นายปราโมทย์ กล่าวต่อว่า กระทั่งเวลา 04.00 น.กว่า ลูกชายได้เดินเท้าจากโรงเรียนเพื่อกลับบ้านเอง และเดินเกือบ 1 กิโลเมตร กระทั่งพบมีชาวบ้านเปิดบ้านอยู่พอดี ลูกชายจึงเดินไปขอความช่วยเหลือ ขอโทรศัพท์โทรหาตนให้มารับ ซึ่งเวลานั้นตนรู้สึกโมโหมาก ทำไมโรงเรียนถึงปล่อยลูกชายอยู่คนเดียวและปล่อยให้เดินกลับบ้านมืด ๆ แบบนั้น ทำไมทางโรงเรียนจึงไม่โทรศัทพ์บอกตนให้มารับลูก และหากเกิดอันตรายกับเด็กใครจะรับผิดชอบ
ขณะครูที่รับผิดชอบคณะทัศนศึกษา ชี้แจงกรณีดังกล่าว ว่าประเด็นแรกคือ นักเรียนไม่มีหนังสือยิมยอมจากผู้ปกครอง ที่ทางโรงเรียนมอบให้กับนักเรียนไป ซึ่งทางครูได้พยายามติดตามทวงถามถึงหนังสือยิมยอมฉบับนี้มาตลอด แต่ก็ไม่ได้รับหนังสือฉบับนี้ จนถึงวันที่จะเดินทางไปจ.ชลบุรี และเมื่อผู้ปกครองมาส่งนักเรียนแล้วก็ยังไม่มีหนังสือฉบับดังกล่าวมาให้กับโรงเรียน จึงไม่อนุญาตให้นักเรียนไปทัศนศึกษาด้วย ซึ่งเป็นตามระเบียบของโรงเรียนทุกแห่ง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในภายหลัง แม้ว่าผู้ปกครองจะแจ้งด้วยวาจากับครูอีกคนที่รับเรื่องแล้วว่าสามารถไปได้ก็ตาม
ครู กล่าวต่อว่า จึงให้เด็กนักเรียนไปหาแม่ครัวของโรงเรียนที่บ้านอยู่ใกล้กัน และให้กลับบ้านไปพร้อมกับแม่ครัว แต่ทางเด็กนักเรียนได้ไปหาแม่ครัว ซึ่งยืนยันว่าทางครูไม่ได้ปล่อยปะละเลยเด็กแต่อย่างใด และครูต้องดูแลนักเรียนอีกหลายคนที่ต้องเดินทางไปทัศนศึกษา
อย่างก็ไรตาม หลังจากทำความเข้าใจแล้ว นายปราโมทย์พอใจกับการชี้แจงระดับหนึ่ง เข้าใจระเบียบของโรงเรียน และอยากให้กรณีของลูกตัวเป็นเคสตัวอย่างกับโรงเรียนอื่น ๆ ทุกโรงเรียน แต่ยังติดใจ เพราะไม่มีคำขอโทษจากครู ที่ปล่อยให้ลูกชายต้องอยู่คนเดียวและเดินกลับบ้าน ซึ่งไม่ควรฝากให้ใครรับผิดชอบ ควรแจ้งให้ผู้ปกครองทราบโดยตรง และยอมรับว่าลูกชายที่ไม่เชื่อฟังครูตามคำแนะนำ ซึ่งก็มีส่วนผิดเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ ทางผู้อำนวยการโรงเรียนยืนยันว่า จะไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีกพร้อมทั้งกำชับครู
