พบโครงกระดูกมนุษย์ ในชุดลายพราง พร้อมอุปกรณ์ตัดสายไฟ คาดเป็นร่างช่างไฟฟ้า ลักตัดสายไฟฟ้า ในโรงสีเก่า ก่อนพลาดท่าร่วงลงมาดับ เมื่อปีที่แล้ว
เมื่อวันที่ 15 ก.ย. 2564 ร.ต.อ.อรรคฤทธิ์ เย็นสวัสดิ์ รองสว.(สอบสวน)สภ.เมืองอุดรธานี รับแจ้งเหตุพบโครงกระดูกมนุษย์ บริเวณป่าละเมาะในโรงสีข้าวร้าง หลักกิโลเมตรที่ 9 ถนนอุดร-สกล ต.หนองนาคำ จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมพล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จว.อุดรธานี
พ.ต.อ.อารี สินธุรา ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.ท.สุรชิต ฤทธิลี รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.พัฒนพงศ์ จันทร์พล รองผกก.ป. พ.ต.ต.ธนนท์ ศรีกงพาน สว.สส. เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวรรพ.อุดรธานี และเจ้าหน้าที่อุดรสว่างเมธาธรรมสถาน
ที่เกิดเหตุเป็นป่าละเมาะในบริเวณโรงสีข้าวร้างที่ปิดกิจการมานานร่วม 10 ปี ที่บริเวณเสาไฟฟ้าพบพบผู้เสียชีวิตสภาพเหลือแต่โครงกระดูก ชุดเสื้อคลุมลายพรางแขนยาว กางเกงสีดำขาสั้น รองเท้าแตะ มีอุปกรณ์เหล็กติดรองเท้าสำหรับปีนเสาไฟฟ้า ถุงมือ คีมตัดสายไฟ เลื่อยตัดเหล็ก คาดว่าเสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 10 เดือน
ในที่เกิดเหตุพบร่องรอยของสายไฟฟ้ที่ถูกตัดบนเสาไฟและบนพื้นในป่า คาดว่าผู้ตายลักลอบเข้ามาตัดสายไฟฟ้าไปขายกับพวกแล้วพลัดตกลงมาคอหักเสียชีวิต ส่วนหัวขโมยคนอื่นกลัวความผิดจึงพากันหลบหนีไป
จากตรวจสอบหลักฐานในที่เกิดเหตุพบว่าผู้เสียชีวิตคือนายอิฐ บุญศรี อายุ 38 ปี ชาวจ.อุดรธานี พักอาศัยอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 10 กิโลเมตร จึงติดต่อญาติให้มาดูศพและยืนยันว่าเป็นเสื้อผ้าชุดที่นายอิฐ ผู้ตาย ชอบสวมใส่ประจำและในวันที่หายตัวออกจากบ้านพักไป
จากการสอบสวนน.ส.อมรรัตน์ บุญศรี อายุ 32 ปี ให้การว่า ผู้ตายคือพี่ชายของตนชื่อนายอิฐ บุญศรี อายุ 38 ปี ชาวจ.อุดรธานี พักอาศัยอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 10 กิโลเมตร อาชีพรับจ้างทั่วไป หายออกจากบ้านไปตั้งแต่เดือน พฤษภาคม 2563 โดยชุดเสื้อผ้าเป็นชุดที่สวมส่ประจำในวันออกจากบ้าน
ฝ่ายสืบสวนระบุว่าผู้ตายน่าจะมาคนเดียวหรืออาจจะมากับเพื่อน เข้าไปลักตัดสายไฟเก่าบนเสาไฟฟ้าในโรงสีร้าง โดยมีอุปกรณ์ครบแบบมืออาชีพขึ้นเสาไฟฟ้า แล้วพลัดตกลงมาจากยอดเสาไฟคอหักเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ส่วนเพื่อน ๆ ที่มาลักตัดสายไฟด้วยกันพากันกลัวความผิดได้หลบหนีไป
