ผอ.ท่องเที่ยวฯยะลา ปัดเอี่ยวศูนย์นวดเบตง วงเงิน 16 ล้าน ยันเป็นหน้าที่ผู้รับผิดชอบโครงการชี้แจง ทุกขั้นตอนป.ป.ช.กำลังดำเนินการตรวจสอบ สั่งห้ามพูดห้ามแตะ ระบุปัญหาสิ้นสุดพร้อมบูรณาการให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชน
ภายหลังรัฐจาก มนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ทราบปัญหา “ศูนย์นวดเบตง” ถูกทิ้งร้าง ที่ท่องเที่ยวฯ ยะลา ดำเนินการสร้างมาตั้งแต่ ปี 2554 วงเงินงบประมาณ 16 ล้านบาท ได้เช็นต์รับมอบงานเรียบร้อย แต่ส่งงานมอบให้เทศบาลเบตงไม่ได้ จึงสั่งพื้นที่ชี้แจงที่มาที่ไปโดยด่วน พบเหตุผลสุดลึกล้ำ เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบโครงการถูกโยกย้าย จึงเก็บเอกสารทั้งหมดไปด้วยเพราะกลัวหาย ทำให้ส่งมอบโครงการให้เทศบาลไม่ได้ กลายเป็นอนุสาวรีย์ร้างในที่สุด
นางปุณณานันท์ ทองหยู ผอ.ท่องเที่ยวและกีฬา จังหวัดยะลา เปิดเผยว่า เพิ่งเข้ามาปฏิบัติราชการ เป็นผู้อำนวยการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดยะลา เพียง 3 เดือน ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2564 ถึงปัจจุบัน ปัญหาโครงการสร้างศูนย์ส่งเสริมอาชีพการนวดเพื่อสุขภาพ หรือ ศูนย์นวดเบตง ดำเนินการมา 10 ปี ผ่านมาหลายยุคก่อนที่ ผอ.คนปัจจุบัน จะมารับตำแหน่ง
เรื่องโครงการสร้างศูนย์นวดเบตง ตนในฐานะ ผอ.ไม่สามารถพูดถึงตัวโครงการฯ รวมถึงผู้เกี่ยวข้องได้ เนื่องจากตอนนี้ทุกขั้นตอนอยู่ในการตรวจสอบสวนของป.ป.ช. ประกอบกับทางป.ป.ช. สั่งห้ามให้พูดให้ข้อมูลใดๆ ต่อคนอื่น ให้อยู่เงียบๆ และอุปกรณ์ทุกอย่างที่มีอยู่ที่เกี่ยวของกับศูนย์นวดเบตง ก็ห้ามแตะต้อง เคลื่อนย้าย โดยให้เป็นหน้าที่ของ ป.ป.ช. ดำเนินการตรวจสอบให้เสร็จก่อน
ผอ.ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดยะลา กล่าวว่า ตนไม่สนับสนุนให้เจ้าหน้าที่ ทำงานแบบมีปัญหาตามหลัง ตนจะปกป้ององค์กรให้เป็นที่น่าเชื่อถือ และสร้างกิจกรรมที่ประชาชนได้ประโยชน์ เตะต้องได้ ไม่ใช่มานั่งไขว้ขาบนเก้าอี้สั่งงานออกไปโดยไม่เกิดประโยชน์กับชุมชน สิ่งเหล่านี้อยากเข้ามารีโนเวทองค์กร รวมถึงโครงการเด่นๆ ที่กำลังค้างในสายตาของประชาชน ที่สำคัญพร้อมสร้างภาพลักษณ์ด้านท่องเที่ยวให้จังหวัดยะลา โด่งดัง และเป็นที่รู้จักของคนต่างจังหวัดและต่างประเทศ อีกครั้ง
ส่วนของคดีโครงการสร้างศูนย์ส่งเสริมอาชีพการนวดเพื่อสุขภาพ ให้ผู้เกี่ยวข้องชี้แจงข้อมูลความจริงกับคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เป็นรายๆ ไป หากปัญหาดังกล่าวสิ้นสุด ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดยะลา พร้อมที่จะบูรณาการทุกภาคส่วนเขาไปซ่อมแซมศูนย์นวดเบตง เพราะเป็นสถานที่สวยมาก และเป็นประโยชน์ต่อประชาชน ที่สำคัญสร้างรายได้ให้ชุมชนได้จริงๆ
