พระจอมขมังเวทย์ เผ่นหายแล้ว หลังถูกวิจารณ์ยับ เปิดกุฏิทำพิธีปลุกเสกเครื่องรางของขลัง-ลงนะหน้าทอง พบอยู่วัดเดียวกับแก๊งพระปาร์ตี้หมูกระทะ
จากกรณีพระวัดดังแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ตั้งตัวเป็น จอมขมังเวทย์ เปิดกุฏิเป็นสำนักรับปลุกเสกเครื่องรางของขลังและทำพิธีกรรมต่าง ๆ โดยเฉพาะรับทำ นะหน้าทอง ปรากฏภาพในโซเชียลมีเดียและเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเกี่ยวกับพฤติกรรมไม่เหมาะสมกับการเป็นพระสงฆ์ เนื่องจากพบว่า มีการทำพิธีให้กับหญิงสาวอย่างใกล้ชิด และสัมผัสร่างกายทั้งบริเวณเนินอกผู้หญิง และต้นขา จึงเรียกร้องให้คณะสงฆ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบพฤติกรรมพร้อมดำเนินการให้ถูกต้องเหมาะสม ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น อ่านข่าว : พระเปิดสำนักสักยันต์ในวัด ตั้งตัวเป็นจอมขมังเวทย์ ชาวบ้านจี้ตรวจสอบพฤติกรรม
ล่าสุดวันที่ 21 ก.ย.2564 รายงานข่าวแจ้งว่า จากการตรวจสอบพบว่า พระหนุ่มดังกล่าวเป็นพระลูกวัดปันเสา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นวัดที่ตกเป็นข่าวโด่งดังเมื่อช่วงปลายเดือนส.ค.ที่ผ่านมา กรณีอดีตเจ้าอาวาสวัดและพระอีกหลายรูปตั้งวงสังสรรค์ดื่มแอลกอฮอล์และกินหมูกระทะในเวลากลางคืน
พระจอมขมังเวทย์ เผ่นหายแล้ว หลังถูกวิจารณ์ยับ เปิดกุฏิทำพิธีปลุกเสกเครื่องรางของขลัง-ลงนะหน้าทอง
โดยวันนี้ซึ่งเป็นวันพระ พบว่าบรรยากาศที่วัดมีประชาชนเดินทางมาทำบุญกันอย่างต่อเนื่อง จากการสอบถามเบื้องต้นทราบว่า พระหนุ่มดังกล่าวชื่อ “พระตั้ว” และจำวัดอยู่ที่วัดแห่งนี้ แต่หลังจากที่มีกระแสข่าวออกมาเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น พระตั้ว ได้หายออกจากวัดไปโดยไม่ทราบว่าไปที่ใด
พระลูกวัดปันเสารูปหนึ่ง เปิดเผยว่า พระตั้วได้มาขอจำวัดอยู่ที่วัดแห่งนี้ในช่วงเข้าพรรษา ตั้งแต่เมื่อเดือนก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งไม่ทราบว่าบวชมาตั้งแต่เมื่อไร และเคยจำวัดอยู่ที่ใดมาก่อน ตลอดเวลาอยู่ที่วัดพระตั้วไม่ได้สุงสิงกับพระรูปอื่นในวัด และไม่ค่อยมาร่วมปฏิบัติกิจของสงฆ์ในวัดด้วย ส่วนการเปิดกุฏิเป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมต่าง ๆ ตามที่เป็นข่าวนั้น ส่วนตัวไม่ทราบ และไม่เคยเห็น
พระลูกวัด เปิดเผยต่อว่า อย่างไรก็ตาม ภาพที่ปรากฏมีการลงนะหน้าทองบริเวณหน้าอกของหญิงสาวนั้น เห็นว่าไม่เหมาะสมอย่างยิ่งและไม่ใช่กิจของสงฆ์ ซึ่งจากนี้จะมีการลงโทษอย่างไรและให้อยู่ที่วัดต่อไปหรือไม่นั้น ต้องเป็นการพิจารณาตัดสินใจของรักษาการเจ้าอาวาสว่าจะเป็นอย่างไร
