ผู้ว่าฯ เผยกลุ่มผู้บำบัดญาติไม่มารับ ส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยจิตเวช ยันไม่ทอดทิ้งแน่นอน จะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามารับไปบำบัดรักษาต่อ
จากกรณี วัดท่าพุราษฎร์บำรุง อำเภอด่านมะขามเตี้ย จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเปิดเป็นศูนย์บำบัดฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด พบภายในให้อยู่กันอย่างแออัดกว่า 200 คน มีห้องน้ำแค่ 2 ห้อง ให้กินข้าวแค่วันละมื้อ จับใส่กุญแจมือแล้วตี หากอยากให้ออกจากศูนย์บำบัดต้องมีเงินจ่าย 1 หมื่น ยิ่งกว่านรกบนดิน
ล่าสุดวันที่ 22 ก.ย. 64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่โรงพยาบาลสนามค่ายฝึกเขาชนไก่ ยังมีกลุ่มผู้ปกครองของผู้บำบัดเดินทางมารับกลับบ้านกันอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางการจัดระเบียบของเจ้าหน้าที่ทหารประจำรพ.
ผู้ปกครองกลุ่มนี้ กล่าวว่า พวกตนอาศัยอยู่ในแถบจังหวัดภาคอีสาน เมื่อได้รับการติดต่อให้มารับบุตรหลานกลับไปดูแล จึงรวมกลุ่มกันเช่ารถตู้ เพื่อจะเดินทางมารับกลับไปดูแลที่บ้าน ที่ผ่านมายอมรับว่าไม่เคยรู้ว่าภายในศูนย์บำบัดแห่งนี้มีปัญหาและมีการใช้ความรุนแรง เมื่อทราบข่าวจึงรีบเดินทางกลับมารับทันที ซึ่งจากนี้ก็คงจะพาบุตรหลานไปเข้ารับการบำบัดในศูนย์ที่มีมาตรฐานและมีการดูแลที่ดีกว่านี้
ด้าน จนท.ประจำรพ.สนามค่ายฝึกนักศึกษาวิชาทหารเขาชนไก่ กล่าวว่า จนถึงขณะนี้มีผู้ปกครองเดินทางมารับกลุ่มผู้บำบัดกลับบ้านไปแล้วมากกว่า 70% โดยที่เดินทางกลับไปนั้นมีทั้งที่เดินทางกลับไปอยู่ในความดูแลของพ่อแม่ผู้ปกครอง กลับไปหาสถานบำบัดแห่งใหม่เพื่อเข้าไปรับการบำบัด รวมถึงมีกลุ่มผู้บำบัดอีกประมาณ 10 คน ที่แสดงความจำนงขอกลับไปอยู่ที่วัดท่าพุราษฏร์บำรุง โดยจะกลับไปอยู่ในฐานะของพระสงฆ์
คงเหลือกลุ่มผู้บำบัดที่ยังรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลสนามแห่งนี้อีกประมาณ 70 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยที่มีอาการทางจิต จำเป็นจะต้องทานยาและได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด ซึ่งผู้ป่วยกลุ่มนี้ทางผู้ปกครองปฏิเสธที่จะรับกลับไปดูแลและขอให้ทางราชการจัดหาสถานบำบัดรับคนกลุ่มนี้เข้าไปบำบัดรักษาตามระบบ
ขณะที่ นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า ขณะนี้ยังเป็นช่วงที่เปิดให้กลุ่มผู้ปกครองเดินทางเข้ามารับบุตรหลานกลับไปอยู่ในความดูแลหรือส่งไปอยู่ที่ศูนย์บำบัดอื่นได้ไปก่อน ซึ่งคงจะต้องใช้เวลาอีกประมาณ 2-3 วัน หลังจากนี้เมื่อทราบจำนวนผู้บำบัดที่ยังคงเหลืออยู่ที่โรงพยาบาลสนาม และผู้ปกครองปฏิเสธที่จะรับกลับไปดูแลแล้ว
ทางจังหวัดจะได้ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง สบยช. และสำนักงานสาธารณสุข เพื่อจะประสานนำผู้บำบัดกลุ่มนี้ไปเข้ารับการบำบัดรักษาและดูแลตามระบบที่ถูกต้องทั้งในโรงพยาบาลและศูนย์บำบัดที่มีมาตรฐานต่อไป ยืนยันได้ว่าจะไม่มีการทอดทิ้งผู้บำบัดกลุ่มนี้อย่างแน่นอน
