ตายายเศร้า บ้านพังทั้งหลัง พากันวิ่งหนีตาย เผยเหตุบ้านชำรุด ไม่มีเงินซ่อม เสียใจและเสียดายบ้านทั้งหลังที่อยู่ด้วยกันมาหลายสิบปี
วันที่ 24 ก.ย. 64 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้ง มีบ้านเรือนประชาชน ใน ต.เจ้าเจ็ด อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา พังถล่มลงมาได้รับความเสียหายทั้งหลัง โดยที่เกิดเหตุอยู่ในพื้นที่ม.3 ต.เจ้าเจ็ด อ.เสนา เป็นบ้านไม้ชั้นเดียวใต้ถุนสูง อยู่ติดกับคลองชลประทาน สภาพพังถล่มลงไปทั้งหลัง เศษไม้ พื้นบ้าน เสาบ้าน เศษหลังคาสังกะสี ข้าวของเครื่องใช้ ภายในบ้านเสียหายทั้งหมด จมอยู่ในน้ำที่ท่วมใต้ถุนบ้าน
นายมนต์ชัย พุฒใจกล้า รองนายกเทศมนตรี เทศบาลตำเจ้าเจ็ด นำกลังเจ้าหน้าที่กองช่างเทศบาล พร้อมด้วยชาวบ้าน ช่วยกันเร่งขนย้ายรื้อถอน เศษไม้ เสาบ้าน ข้าวของต่าง ๆ ออกจากบ้าน อย่างเร่งด่วน จากนั้นพบลูกแมว วัย 1 สัปดาห์ ส่งเสียงร้องวิ่งหนีออกมาจากกองปรักหักพังที่จมอยู่ในน้ำ เจ้าหน้าที่ช่วยกันจับช่วยเหลืออย่างปลอดภัยโดยมีนายชาญ ฤกษ์เสรี อายุ 80 ปี และนางมะลิ ฤกษ์เสรี อายุ 73 ปี สองสามีภรรยาเจ้าของบ้านนั่งดู เจ้าหน้าที่กำลังรื้อบ้าน ด้วยความเสียใจเสียดายบ้านทั้งหลังที่อยู่ด้วยกันมา
นายชาญ กล่าวว่า ตนอาศัยอยู่บ้านนี้มา ประมาณ 70 ปี บ้านชำรุดมานาน ไม่มีเงินซ่อมแซม ช่วงหัวค่ำได้ยินเสียงบ้านลั่นกลัวว่าบ้านจะพัง จึงได้ชวนภรรยาออกมาจากบ้าน เพราะคิดว่าบ้านต้องพังแน่ ๆ พอออกมาพ้น บ้านพังลงไปทั้งหลัง ถ้าไม่ตัดสินใจพากันหนีออกมา คงต้องบาดเจ็บล้มตายแน่ ๆ บ้านหลังนี้อาศัยอยู่กัน 3 คน กับภรรยาและลูก หลังจากนี้ต้องปลูกบ้านใหม่ที่เดิมเอาเศษไม้ที่ยังพอใช้ได้ปลูกบ้านใหม่
ด้านนางมะลิ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้มีเสียงบ้านดังลั่นไม้เสาบ้านคล้ายจะหัก มาแล้วมาแล้วประมาณ 2-3 วันแต่ไม่รู้จะทำยังไงเพราะไม่มีเงินจะซ่อมแซม มีลูกชายเลี้ยงดูอยู่รายได้แต่ละเดือนไม่เพียงพออยู่แล้ว ไม่คิดว่าบ้านจะมาพังเสียหายขนาดนี้ พอระดับน้ำที่ล้นคลองขึ้นมาท่วมพื้นดินใต้ถุนบ้าน ได้เพียงวันเดียวเท่านั้น
ขณะที่ นายมนต์ชัย พุฒใจกล้า รองนายกเทศมนตรี เทศบาลตำเจ้าเจ็ด กล่าวว่า หลังเกิดเหตุเราได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยเหลือในการรื้อถอนก่อน ส่วนเรื่องการช่วยเหลือ ขอไปศึกษาดูระเบียบการช่วยเหลือ จะสามรรถช่วยเหลืออะไรได้บ้าง ส่วนสาเหตุในเบื้องต้น เนื่องจากสภาพเป็นบ้านไม้เก่า พุพัง โดยทางเทศบาลตำบลเจ้าเจ็ดจะเร่งให้การช่วยเหลือต่อไป
