หลานสาวโผล่เปิดใจ ขอโทษคุณยาย 84 เอาโฉนดไปขาย หวิดทำยาย-เหลนตัวน้อยไร้ที่ซุกหัวนอน โดนยึดที่ดิน โชคดีคนไทยแห่บริจาคช่วย ยอมรับผิดทั้งหมด
วันที่ 24 ก.ย.2564 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีคุณยายมิตร์ เกรียมมะเริง วัย 84 ปี อาศัยอยู่ในชุมชนเมือง จ.นครราชสีมา ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักกำลังจะถูกยึดบ้าน อาศัยอยู่กับเหลนตามลำพัง ถูกหลานสาวติดหนี้นอกระบบเอาโฉนดที่ดินไปจำนองกับนายทุน
แต่ขาดส่งจนทำให้บ้านต้องถูกยึด แต่โชคดีมีคนบริจาคเงินช่วยเหลือคุณยายก่อนไร้ที่ซุกหัวนอน เป็นเงิน 937,765.40 สตางค์ ซี่งเพียงพอต่อการไถ่โฉนดที่ดิน จำนวน 370,000 บาท คุณยายจึงเดินทางไปปิดบัญชีรับบริจาคที่ธนาคารกรุงศรี สาขาตลาดเซฟวัน ในวันนี้
ล่าสุดเรื่องนี้ นางสาคร ลาภวิบูลย์สุข หัวหน้าชุดข้าง สภ.โพธิ์กลาง กู้ภัยฮุก 31 ซึ่งเป็นผู้ดูแลคุณยาย ได้ติดต่อไปยัง น.ส.พิม ซึ่งเป็นหลานยายคนนำโฉนดที่ดินไปขาย ซึ่งได้เปิดใจเรื่องที่เกิดขึ้นว่า ได้นำโฉนดไปขายจริง โดยเริ่มจากนำโฉนดไปกู้เงินกับสถาบันการเงินแห่งหนึ่งในวงเงิน 5 หมื่นบาท เพื่อนำเงินมาใช้หนี้นอกระบบแต่ไม่สามารถปิดยอดหนี้ได้จึงโทรไปขอเพิ่มวงเงินเพื่อมาชำระนี้อีก 5 หมื่นบาท
“รวมดอกแล้วประมาณ 110,000 บาท แล้วเดินทางไปทำงานต่อที่ กทม. แต่เนื่องด้วยสถานการณ์โควิดเลยทำให้ส่งต่อไม่ไหว ต้องนำโฉนดไปสถาบันการเงินอีกที่เพื่อกู้เงินออกมาใช้หนี้ให้กับที่เก่าพร้อมกับนำเงินส่วนต่างที่ได้เพิ่มไปปิดค่างวดรถ จากนั้นต้องการนำโฉนดที่ดินออกมาเลยโพสต์ข้อความไปยังเพจๆหนึ่ง เพื่อหาคนมาช่วยนำโฉนดที่ดินออกมา หลังจากนั้นได้รับการติดต่อจากอาจารย์ที่เคยสอนตอนเรียนมัธยมว่า จะหาคนมาช่วยนำโฉนดที่ดินออกมาให้ด้วยวงเงิน 2 แสนกว่าบาท
โดยมีเงื่อนไขต้องผ่อนชำระเดือนละ 6 พันบาท แต่ผ่อนได้แค่เดือนเดียวเพราะตกงานจากโควิด-19 ผ่อนต่อไม่ไหว จึงติดต่อไปยังตัวแทนเจ้าหนี้เพื่อขอเจรจาโดยฝั่งเจ้าหนี้ได้ทำสัญญาซื้อขายขึ้นมาพร้อมกับระบุว่าสามารถซื้อคืนได้ ด้วยวงเงินในการซื้อขาย 350,000 บาท ซึ่งทางฝั่งตัวแทนของเจ้าหนี้ก็ยินดีให้ซื้อคืน พร้อมกับบอกว่าจะรอให้มาซื้อคืนถ้ามีเงินพร้อม ซึ่งหนูขอยอมรับผิดทั้งหมด เรื่องทั้งหมดเป็นเพราะไปกู้เงินนอกระบบ “
