ชลประทานโคราช แจงสถานการณ์ อ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร ระบายน้ำออกได้มากกว่าเข้าอ่าง ไม่ต้องตัดคันทำทำนบดินบนอ่าง แต่ยังมีจุดที่ต้องเฝ้าระวัง

กรณี เมื่อช่วงเย็นวันที่ 26 ก.ย.ที่ผ่านมา พบคันดินกั้น อ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร (ตอนล่าง) ต.บัลลังก์ อ.โนนไทย จ.นครราชสีมา ถูกมวลน้ำซัดพังทลายเป็นความกว้างประมาณ 10 เมตร เนื่องจากปริมาณน้ำภายในอ่างมีมากจนเกินความจุ ก่อนที่คันดินจะพังทลาย

โดย อ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร (ตอนล่าง) มีปริมาณน้ำกักเก็บอยู่ที่ 41 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 151% จากความจุอ่างทั้งหมดที่ 27.7 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยรับน้ำมาจากพื้นที่ จ.ชัยภูมิ และพื้นที่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา

ล่าสุดเมื่อเวลา 07.29 น. วันที่ 27 ก.ย.64 เฟซบุ๊กเพจ โครงการชลประทานนครราชสีมา รายงานสถานการณ์ล่าสุด ความว่า อ่างเก็บน้ำลำเชียงไกรตอนล่าง ล่าสุด เช้าวันนี้ (27 ก.ย.64) ระดับน้ำในอ่างฯ ลดลง 30 ซม. (เริ่มลดลงเวลา 01:00 น.) และเหลือถึงระดับสันทำนบดิน อ่างฯ 60 ซม.

หมายถึง ปริมาณน้ำที่ไหลเข้าอ่างฯ ประมาณ 400-500 ลบ.ม.ต่อวินาที < (ลดลง/น้อยกว่า) ปริมาณน้ำที่ไหลออกจากทุกช่องทาง (ช่อง river outlet ซ้าย/ขวา , กาลักน้ำ /สูบน้ำ ,รถสูบซิ่ง ,ทางระบายน้ำฉุกเฉินขวา (Emergency Spillway) ,และช่องบ่อก่อสร้าง ประตูระบายน้ำ( Service Spillway)

• จึงยังไม่ต้องตัดคันทำนบดินอ่างฯ จุดอื่นเพิ่มการระบายอีก

> ระดับน้ำในอ่างฯ ทรงตัวและลดลง ทำให้ ไม่เกิดล้นข้ามทำนบดินสันของอ่าง ในลักษณะพังทลาย หรือเขื่อนแตก

สามารถบริหารน้ำออกอ่างฯให้มากกว่าหรือเท่ากับน้ำเข้าอ่างฯ รักษาความปลอดภัยเขื่อนและอ่างเก็บน้ำ พ้นวิกฤติ และบรรเทาความเสียหายด้านท้ายน้ำ

ทั้งนี้ยังต้องเฝ้าระวังปริมาณน้ำที่ยังคงไหลลงมาจากตอนบน ห้วยสามบาท ที่ไหลลงมาอย่างต่อเนื่องต่อไป

ขอบคุณภาพจาก : ฮุก31 นครราชสีมา

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน