นายวงสะหวัน เทพพะจัน รองผู้ว่าราชการแขวงหลวงพระบาง สปป.ลาว แถลงเรื่องปีการท่องเที่ยวลาวปี 2018 ที่หอประชุมแขวงหลวงพระบาง โดยเชิญผู้แทนสื่อมวลชนจากไทย จีน และกัมพูชาเข้าร่วมว่า รัฐบาลลาวมีนโยบายพัฒนาการท่องเที่ยวหลวงพระบางให้มั่นคงยั่งยืน ที่ผ่านมาการท่องเที่ยวเป็นเรื่องสำคัญ พร้อมกันนั้นจะพัฒนาหลวงพระบางให้เป็นศูนย์กลางทางด้านการศึกษา เพื่อขยายไปสู่แขวงอื่นทางภาคเหนือของประเทศลาว ซึ่งการพัฒนาด้านต่างๆ ของหลวงพระบาง จะเป็นสิ่งดึงดูดให้นักท่องเที่ยวทั้งภายประเทศและนอกประเทศเข้ามาเที่ยวมากยิ่งขึ้น
นายวงสะหวันกล่าวว่า มีโอกาสนทนากับทูตประเทศจีนและได้แนะนำให้ลาวเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวในประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาเที่ยว อย่างเช่นจีน ซึ่งปีหนึ่งๆ มีนักท่องเที่ยวจีนไปเที่ยวรอบโลกประมาณ 130 ล้านคน ถ้าแบ่งมาเที่ยวลาวได้สัก 1% ก็เท่ากับ 1.3 ล้านคนแล้ว ในการพัฒนาหลวงพระบางนั้นจะต้องสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวด้วย รวมถึงการพัฒนาปรับปรุงแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ อย่างไรก็ตามสิ่งที่สำคัญที่สุดคือต้องรักษาความเป็นมรดกโลกของหลวงพระบาง รักษาความสะอาด ความเป็นระเบียบเรียบร้อยและรักษาสิ่งแวดล้อมพร้อมๆ กันไปด้วย
ด้าน ดร.สุดาพร คมทะวง รองผู้ว่าการท่องเที่ยวจังหวัดหลวงพระบาง กล่าวว่า นอกจากจะพัฒนาหลวงพระบางเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวแล้ว จะมีการพัฒนาส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ รอบนอกด้วย อย่างเช่น เมืองงอย ซึ่งอยู่ห่างออกไป 120 กิโลเมตร เมืองนี้มีทิวทัศน์สวยงาม สามารถไปเที่ยวภูเขา ป่าไม้ ไปล่องแก่ง ปีนเขา โดยเฉพาะในหน้าหนาวจะมีทะเลหมอกและมีแหล่งท่องเที่ยวเกษตรอื่นๆ อย่างเช่น สวนส้ม และมีหมู่บ้านทอผ้าฝ้ายด้วย สำหรับปีนี้นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวหลวงพระบางอันดับหนึ่งได้แก่ จีน ตามด้วยไทย และประเทศในกลุ่มอียู
“ในการพัฒนาสถานที่ท่องเที่ยวนั้น ส่วนหนึ่งทางหลวงพระบางได้เรียนรู้จากประเทศไทย อาทิ การให้ผู้มาเยือนมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมกับคนในชุมชนเพื่อให้มีเวลาอยู่นานวันขึ้น เหมือนอย่างนักท่องเที่ยวไปเกาหลีจะมีโอกาสได้ทำกิมจิแล้วนำกลับบ้านได้เลย” ดร.สุดาพรกล่าว
ดร.สุดาพร ระบุด้วยว่า ปลายปีนี้และในปีหน้าแขวงหลวงพระบางได้จัดกิจกรรมใหญ่ถึง 7 กิจกรรมหลักๆ และแยกเป็นกิจกรรมย่อยๆ อีก อย่างเช่น จัดเทศกาลอาหารพื้นเมืองและงานฝีมือ ฯลฯ เพื่อดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวตลอดทั้งปี โดยเฉพาะช่วงหน้าฝน พร้อมกันนั้นจะปรับปรุงศูนย์ข้อมูลข่าวสารและถนนหนทางเพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปยังเมืองรอบๆ หลวงพระบางได้สะดวกยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเมืองงอย หรือเมืองจอมเพชร
