เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 12 ธ.ค. ที่สนามหญ้า กองฝึกทหารใหม่ หน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการ รักษาความมั่นคงภายในภาค 4 เปิดเผยว่า ตามที่มีการแชร์คลิปพร้อมข้อความ “ช่วยกันแชร์ด้วยครับ กระจายให้มากที่สุด คนไทยจะได้เห็นกับตา ค่ายฝึกของ พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 คนนี้มันโหดร้ายขนาดไหน” ซึ่งต่อมาพบว่ามีการแชร์คลิปดังกล่าวในสื่อสังคมออนไลน์อย่างกว้างขวาง ดังนั้น เพื่อให้ได้รับทราบข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง กองทัพภาคที่ 4/ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 จึงขอชี้แจงเพื่อสร้างความเข้าใจ ดังนี้

จากการตรวจสอบคลิปที่มีการแชร์มี 2 คลิป โดยคลิปแรก เป็นภาพการทำร้ายทหารด้วยการเฆี่ยนตีและเตะต่อย จากการตรวจสอบพบว่าเป็นคลิปเก่าที่เคยนำมาแชร์เมื่อพฤษภาคม 2560 พิจารณาจากสถานที่, เครื่องแต่งกายและภาษา สามารถยืนยันได้อย่างชัดเจนว่า ไม่ใช่เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย และคลิปที่ 2 เป็นการรวบรวมภาพการทำร้ายร่างกายทหารที่เกิดขึ้นในอดีตหลายเหตุการณ์ ในห้วงปี 2554-2556 ซึ่งทุกเหตุการณ์ กองทัพได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน โดยลงทัณฑ์ผู้ที่ร่วมกระทำความผิดทางวินัยทหาร และประมวลกฎหมายอาญาทหาร ทั้งจำขัง พักราชการ และปลดออก จากราชการแล้วหลายราย และบางรายอยู่ในระหว่างดำเนินคดี จึงเห็นได้ว่าคลิปที่นำมาเผยแพร่ดังกล่าวไม่ได้อยู่ในช่วงที่ พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช ดำรงตำแหน่ง แม่ทัพภาคที่ 4 (ตั้งแต่ตุลาคม 2559–ปัจจุบัน) แต่อย่างใด

 

การเผยแพร่คลิปดังกล่าว พิจารณาได้ว่าเป็นความพยายามที่จะทำลายความน่าเชื่อถือและทำลายชื่อเสียงของ พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 ผู้ที่ได้อุทิศตนปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 4 ด้วยความทุ่มเท เสียสละ มีคุณธรรม จริยธรรม จนเป็นที่ยอมรับจากทุกภาคส่วน ซึ่งผลจากการปฏิบัติงานดังกล่าว อาจทำให้บุคคลบางคน หรือบางกลุ่มเสียประโยชน์ จึงพยายามทำทุกวิถีทาง เพื่อทำลายความน่าเชื่อถือในรูปแบบต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผลกระทบจากพฤติกรรมดังกล่าว อาจทำให้พี่น้องประชาชนเสื่อมศรัทธา และทำลายภาพลักษณ์ของกองทัพอีกด้วย

ทั้งนี้ กองทัพบกและกองทัพภาคที่ 4 ไม่เคยปฏิเสธหรือเพิกเฉยต่อทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต โดยได้กำหนดนโยบายที่ชัดเจนในเรื่องการฝึกและการลงทัณฑ์ทหาร โดยห้ามมิให้มีการทำร้ายร่างกายและซ้อมทรมานทหารกองประจำการ หรือผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างเด็ดขาด หากใครฝ่าฝืนก็จะมีมาตรการลงโทษขั้นสูงสุดทั้งวินัยทหาร และถูกดำเนินคดี ตามกฎหมายโดยไม่มีข้อยกเว้น

แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 สั่งการให้หน่วยที่เกี่ยวข้องตรวจสอบบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องและรู้เห็นในการเผยแพร่คลิปดังกล่าว ขณะนี้พอจะทราบเบาะแสในเบื้องต้นแล้ว โดยจะใช้มาตรการทางกฎหมายดำเนินการต่อไป พร้อมกับขอให้พี่น้องประชาชนใช้ดุลยพินิจในการบริโภคข้อมูลข่าวสารอย่างมีสติ เพื่อไม่ให้ตกเป็นเครื่องมือของผู้ไม่หวังดี และให้หยุดการแชร์ข้อมูล เพราะอาจเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ที่มีโทษตามกฎหมาย ทั้งนี้ กองทัพภาคที่ 4 จะปฏิบัติหน้าที่ในฐานะทหารของพระราชาที่พร้อมจะอยู่เคียงข้างกับพี่น้องประชาชน “ก้าวข้ามทุกวิกฤติไปด้วยกัน และจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังอย่างเด็ดขาด”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน