สลด! หนุ่มลาวป่วยโรคไตระยะสุดท้าย ไร้เงินฟอกไต ลั่นขอตายอยู่กับลูกเมียที่เมืองไทย บีบหัวใจ เมีย-ลูกนั่งเฝ้าจนวาระสุดท้ายในมุ้ง

เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 3 ต.ค.64 ร.ต.ท วิทโชติ สมบรรดาศักดิ์ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.ลานสัก จ.อุทัยธานี ได้รับแจ้งมีผู้เสียชีวิต ที่บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่หมู่ 2 บ้านห้วยทราย ต.น้ำรอบ อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม กู้ภัยอุทัยธานีจุดลานสัก

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ที่บริเวณหน้าบ้านพบมุ้งกางอยู่ 1 หลัง ภายในพบผู้เสียชีวิต ทราบชื่อคือ MR.SAMAY KOYYAVONG อายุ 44 ปี ชาวสปป.ลาว นอนอยู่ เจ้าหน้าที่จึงสวมใส่ชุดพีพีอีเข้าไปตรวจสอบ และซักประวัติเกี่ยวกับความเสี่ยงโควิด โดยพบว่าผู้ตายมาอยู่เมืองไทยได้ 10 แล้ว รวมทั้งได้ฉีดวัคซันครบ 2 เข็ม และไม่มีประวัติการเดินทาง

จากการสอบถาม น.ส.ปรารถนา เกิดขำ อายุ 37 ปี ภรรยาของผู้ตาย กล่าวว่า ผู้ตายมาอาศัยที่เมืองไทยอยู่กับตนมานานแล้ว และไม่ได้กลับบ้านที่ประเทศลาวมากว่า 10 กว่าปี โดยผู้ตายมีอาชีพรับจ้างทั่วไป ก่อนหน้านี้ช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ผู้ตายไปรักษาโรคเก๊าท์ที่โรงพยาบาลตามปกติ จากนั้นมาผู้ตายก็ได้นอนปวดแถวบริเวณช่วงท้องมาโดยตลอด จึงได้ไปตรวจซ้ำอย่างละเอียดอีกรอบ พบว่าป่วยเป็นโรคไตระยะสุดท้าย ซึ่งสร้างความตกใจให้กับตนมาก เพราะไม่เคยรู้มาก่อน

ล่าสุดผู้ตายป่วยหนัก ได้ไปนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลลานสัก โดยให้น้ำเกลือไป 2 กระปุก พร้อมกับให้เลือดอีก 2 กระปุก แต่อาการก็ยังไม่ดีขึ้น ต่อมาทางโรงพยาบาลบอกให้ผู้ตายฟอกไต แต่ผู้ตายไม่มีเงิน หลังจากนั้นมาผู้ตายก็ได้บอกกับหมอว่าขอตัวไปรักษาที่บ้านเกิด ล่าสุดทางโรงพยาบาลก็ทำเรื่องส่งตัวผู้ตายกลับประเทศลาว แต่ผู้ตายไม่ยอมกลับเนื่องจากเป็นห่วงลูกกับตน ประกอบกับไม่มีเงินค่าใช้จ่ายในการเดินทาง และผู้ตายก็บอกกับตนว่า เป็นโรคไตระยะสุดท้าย ไม่มีเงินรักษา ถ้าจะตายก็ขอนอนกอดลูกกอดเมียตายที่บ้านหลังนี้ที่เมืองไทย กระทั่งเวลาประมาณ 16.00 น.ที่ผ่านมา ผู้ตายหายใจไม่ ออกปวดตามเนื้อตามตัว โดยตนกับลูกก็อยู่ข้างๆ ผู้ตาย จนหมดลมหายใจ

เบื้องต้น คาดว่าผู้ตายเสียชีวิตด้วยโรคประจำตัว พร้อมกับส่งศพผู้ตายไปตรวจพิสูจน์ที่โรงพยาบาลลานสักอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อให้กับทางญาติสบายใจ ทั้งนี้ทางญาติก็ไม่ได้ติดใจการเสียชีวิตในครั้งนี้ จึงให้ญาติรอนำศพไปทำพิธีทางศาสนาต่อไป

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน