หนุ่มหลงเชื่อสาว รู้จักผ่านออนไลน์ ชวนลงทุนเทรดหุ้น โอนเท่าไรก็ไม่พอ เพราะต้องเพิ่มเงินจึงถอนได้ แต่ไม่จริง กว่าจะรู้ตัวหมดไป 7 แสน

วันที่ 8 ต.ค.64 ที่ สภ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย นายสรชัย (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 46 ปี ชาว อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อให้ปากคำเพิ่มเกี่ยวกับรายละเอียดการโอนเงิน เลขบัญชีธนาคารที่โอนไปและหลักฐาน ที่ยังเก็บไว้ อาทิ สลิป หลักฐานการโอนเงินเป็นต้น ยื่นให้กับพนักงานสอบสวน รวบรวมไว้เป็นหลักฐาน หลังถูกหลอกให้โอนเงินไป 7 แสนบาท

นายสรชัย กล่าวว่า เมื่อวันที่ 20 ส.ค.ที่ผ่านมา ขณะเข้าไปเล่นเฟซบุ๊ก เห็นแอฟฯ หาเพื่อน หาคู่ และเห็นบัญชีผู้ใช้ชื่อ “ปู” จึงเข้าไปพูดคุยก่อนจะมีการติดต่อกันทางไลน์ จากนั้น “ปู” ได้ชักชวนให้ลงทุนเล่นหุ้นออนไลน์ด้วยการร่วมเทรดหุ้น จึงส่งข้อมูลส่วนบุคคลไปให้ เช่น ชื่อ นามสกุล บัญชีธนาคาร ต่อมาก็ถูกชักชวนให้สมัครเป็นสมาชิกเว็บไซต์ที่อ้างว่าใช้เพื่อดูหุ้น-เงินทุน และผลกำไร ก่อนให้ตนโอนเงินเข้าไปลงทุนก้อนแรก ช่วงต้นเดือนกันยายน เข้าบัญชีธนาคารกรุงไทย ของผู้ที่ใช้ชื่อว่า นายภูมินาท ขันเดช จำนวน 500 บาท

ต่อมา “ปู” ก็ได้ติดต่อกลับมาว่าให้ตรวจดูเงินทุน-ผลกำไรในเว็บไซต์ เมื่อตนเข้าไปดูปรากฏว่าจำนวนเงินเพิ่มเป็น 600 บาท ซึ่งเพิ่มขึ้นมา 100 บาท ทำให้ตนเชื่อถือและยอมลงทุนในวันต่อไปอีก โดยได้ใช้บัญชีธนาคารหลายธนาคารคือธนาคารไทยพาณิชย์, ธนาคารกรุงไทย, ธนาคาร ธ.ก.ส. โอนเงินไปลงทุนอีก 1 ครั้ง จำนวน 3,000 บาท และได้เงินเพิ่มขึ้นมาอีก 3,600 บาท เพิ่มขึ้น 600 บาท ทำให้ตนยิ่งเชื่อมั่นจึงโอนไปเพิ่มอีก 50,000 บาท

จากนั้นได้เข้าไปดูในเว็บไซต์พบว่าได้ผลกำไรรวม 70,000 บาท แต่ “ปู” แจ้งว่าต้องเพิ่มวงเงินลงทุนอีก 1 แสนบาท เพื่อให้เงินทุนและกำไรครบ 2 แสนบาท จึงจะสามารถถอนเงินคืนได้ ตนจึงโอนเงินไปอีกครั้งช่วงกลางเดือนกันยายน จำนวน 1 แสนบาท แต่ปรากฏว่าถอนเงินกลับคืนมาไม่ได้

หลังจากนั้น “ปู” แจ้งตนว่าหากอยากจะถอนเงินต้องโอนเพิ่มอีก 2.5 แสนบาท โดยตนก็โอน โดยเอาเงินสดกับแม่ และเงินในบัญชีธนาคาร ธ.ก.ส.โอนไปอีก จากนั้น “ปู” ก็แจ้งมาอีกว่าหากจะถอนเงินทั้งหมดได้ต้องโอนอีก ตนจึงนำเงินทั้งหมดในบัญชีของพ่อโอนไปจนเกลี้ยงบัญชีรวมทั้งเงินตนเองรวมทั้งหมด 7 แสนบาท โดยมียอดเงินในเว็บไซต์เทรดหุ้นมีเงินรวม 9 แสนบาท แต่ตนไม่สามารถถอนได้ โดย “ปู” ยังคงบอกว่าให้โอนไปอีกจึงจะถอนได้ แต่ตนไม่มีเงินโอนแล้ว และเริ่มแปลกใจ ว่าทำไมถอนเงินไม่ได้ บ่ายเบี่ยงตลอด จึงเชื่อได้ว่าตนน่าจะโดนหลอกแน่ๆ จึงได้เข้าไปแจ้งความไว้ที่ สภ.ท่าบ่อ ตั้งแต่วันที่ 5 ต.ค.ที่ผ่านมา

นายสรชัย ยังได้กล่าวฝากถึงผู้ที่เล่นโซเชียลว่า ให้ระมัดระวัง อย่าไปหลงเชื่อใครง่ายๆ เพราะทุกวันนี้คนมีหลายรูปแบบ บางครั้งพูดดี น่าเชื่อถือ สุดท้ายก็มาหลอกเราเหมือนเดิม ทุกวันนี้พวกแก็งคอลเซ็นเตอร์เรียนจบมาสูง เราชาวไร่ชาวนา ไม่ทันเขาหรอก

ด้าน พ.ต.ท.เนติพงษ์ จำนงนิตย์ สารวัตร (สอบสวน) สภ.ท่าบ่อ กล่าวว่า วันนี้ได้ให้ นายสรชัย เข้ามาให้ปากคำเพิ่มเติมก่อนจะรวบรวมหลักฐานและตรวจสอบเจ้าของเลขบัญชีปลายทางให้ชัดเจน ก่อนจะมีการออกหมายเรียกเจ้าของบัญชี เพื่อมาสอบสวน และจะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน