นาข้าวกว่า 500 ไร่จมแล้ว ไม่ทันได้เกี่ยว น้ำชีเอ่อท่วมเสียหายสิ้นเชิง หมู่บ้าน 8 ต.ม่วงลาด อ.จังหาร ร้อยเอ็ด กลายเป็นเกาะถูกตัดขาด ต้องอพยพชาวบ้านไปอยู่เต็นท์
วันที่ 12 ต.ค.2564 ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำลำน้ำชีล้นตลิ่งไหลบ่าเข้าท่วมบ้านเรือนราษฏรและสวนไร่นาในพื้นที่ ต.ม่วงลาด อ.จังหาร จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งเป็นมวลน้ำก้อนใหญ่จากจ.ขัยภูมิ ขอนแก่น มหาสารคาม และกาฬสินธุ์ ส่งผลให้หมู่ 8 ต.ม่วงลาด กลายเป็นเกาะ ถนนเข้าหมู่บ้านระยะทาง 1,500 เมตรกำลังถูกตัดขาด นาข้าวยังไม่ได้เก็บเกี่ยวจมน้ำสูงกว่า 4 เมตรเสียหายสิ้นเชิง กว่า 500 ไร่
นางฉวีวรรณ อินทะมนต์ อายุ 52 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหนองแค หมู่ 8 เปิดเผยว่า น้ำในลำน้ำชีล้นตลิ่งไหลบ่าเข้าท่วมตั้งแต่เวลา 17.00 น.วันที่ 11 ต.ค.2564 และเพิ่มระดับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง บ้านหนองแคมีสภาพเป็นเกาะถูกน้ำท่วมรอบหมู่บ้านระดับน้ำสูงกว่า 4 เมตร ต้องสัญจรเข้าออกหมู่บ้านทางเรือเท่านั้น มีบ้านเรือนราษฏรที่ถูกน้ำท่วมรวม 28 หลังคาเรือน 33 บ้านเลขที่ นาข้าวฝั่งติดหมู่บ้านทางทิศใต้จมน้ำแล้ว 500 ไร่ ส่วนอีก 250 ไร่ฝั่งบ้านโนนเชียงบังคาดว่าไม่เกิน 2 วันจมน้ำเสียหาย
วันนี้น้ำเพิ่มระดับสูงขึ้น 27 ซ.ม.และเพิ่มระดับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง คาดว่าน้ำจะท่วมนานกว่า 3 เดือน โดยเฉพาะปี 2554 ท่วมนานกว่า 4 เดือน ขณะนี้ได้อพยพราษฏรและสิ่งของจำเป็นมาสร้างเพิงพักบนพนังกั้นน้ำริมคลองชลประทานแล้ว ส่วนภายในบ้านเรือนได้เก็บข้าวของขึ้นชั้นบนบ้านและที่สูงแล้ว มีหน่วยทหาร มทบ.27 และชุดบรรเทาสาธารณภัย นทพ.54 จ.สุรินทร์ มาช่วยเหลือ
ด้าน พ.ต.หิรัญทรัพย์ ผลมาตย์ หัวหน้าชุดบรรเทาสาธารณภัย นทพ. 54 จ.สุรินทร์ กล่าวว่า เดินทางมาเตรียมการช่วยเหลือได้ 7 วันแล้ว เมื่อคืนนี้วิกฤติมากเราช่วยพี่น้องนำยานพาหนะและข้าวของขึ้นที่สูง ระดับน้ำจะเพิ่มระดับสูงขึ้นตลอดเวลา เมื่อคืนระดับน้ำสูงถึง 50 ซ.ม. โดยหน่วยทหารทั้ง 2 หน่วยและอบต.ม่วงลาด จะร่วมกันดูแลประชาชนจนกว่าน้ำจะลดและชาวบ้านเดินทางกลับเข้าหมู่บ้าน
