เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. พล.ต.ต.รมย์สิทธิ์ วีริยาสรร รักษาราชการแทนเลขาธิการ ปปง. กล่าวว่า จากคดีที่นายชิงตวน จาง กับพวกแก๊งชาวจีนฉ้อโกงประชาชน โดยการตั้ง “โครงการจี้หลงกั๋วจี้”หรือ “โครงการทวงสมบัติชาติ” แล้วหลอกลวงให้ประชาชนร่วมลงทุน มีผู้เสียหาย 33,000 คน ความเสียหายมูลค่าประมาณ 1,000 ล้านบาท และต่อมาสำนักงาน ปปง. ประสานงานกับสาธารณรัฐประชาชนจีน จนนำไปสู่การยึดและอายัดทรัพย์สินได้มูลค่าประมาณ 346 ล้านบาท นั้น

สำนักงาน ปปง. ดำเนินการสืบสวนขยายผลพบว่า การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดอาญาฐานฟอกเงิน อีกส่วนหนึ่ง โดยมีคนไทยเข้าร่วมการกระทำความผิดด้วย ดังนั้น เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2560 สำนักงาน ปปง. จึงดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน ไปดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหา จำนวน 5 ราย คือ 1.นายชิงตวน จาง 2.นายหวง จิงเคอ 3.นายปู่ เจ๋อ หวิ๋น 4.นางเอมอร จิตจักร์ และ 5.นายฉีตง หรืออาตง

ในการกระทำการโอน รับโอน เปลี่ยนสภาพทรัพย์สิน เพื่อซุกซ่อน หรือปกปิดแหล่งที่มาของทรัพย์สิน หรือกระทำด้วยประการใดๆ เพื่อปกปิดหรืออำพรางลักษณะที่แท้จริงการได้มา ซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดหรือได้มาครอบครอง หรือใช้ทรัพย์สิน โดยรู้ในขณะที่ได้มาครอบครอง หรือใช้ทรัพย์สินนั้นว่าเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด โดยสมคบการ ตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และได้กระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้สมคบกัน ร่วมกันฟอกเงิน และหรือสนับสนุนการกระทำความผิดฐานฟอกเงิน หรือช่วยเหลือผู้กระทำความผิดฐานฟอกเงินก่อนหรือขณะกระทำความผิด จึงเป็นการกระทำความผิดอาญาฐานฟอกเงิน ตามมาตรา 3 วงเล็บ 5, 7, 9 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542

ล่าสุดวันนี้ สำนักงาน ปปง. ร่วมกับกองบังคับการปราบปราม จับกุมนางเอมอร จิตจักร์ ภรรยาของนายปู่ เจ๋อ หวิ๋น ที่เป็นผู้ต้องหาชาวจีน ซึ่งเป็นผู้ต้องหาชาวจีนที่สามารถจับกุมและส่งตัวกลับไปดำเนินคดีที่ประเทศจีนแล้ว โดยจะสืบสวนขยายผลเกี่ยวกับเรื่องการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพย์สิน และดำเนินการการตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินต่อไป

รักษาราชการแทนเลขาธิการ ปปง. กล่าวเพิ่มเติมว่า การจับกุมดังกล่าว เป็นการบูรณาการในการทำงานร่วมกันระหว่างสำนักงาน ปปง. และกองบังคับการปราบปราม เพื่อเป็นการตัดวงจรอาชญากรรรมและตัดเส้นทางทางการเงินของผู้กระทำความผิด โดยได้ประสานความร่วมมือกับพนักงานสอบสวน กองปราบปราม ในการสืบสวนสอบสวน เพื่อตรวจสอบเส้นทางการเงินและนำตัวผู้กระทำความผิดทั้งหมดมาลงโทษอย่างต่อเนื่อง โดยจะให้ความสำคัญกับการบูรณาการกับทุกภาคส่วน บนปรัชญาการทำงานที่ว่า “ทรัพย์สินใดเป็นของแผ่นดิน ทรัพย์สินนั้นต้องกลับคืนแผ่นดินโดยไม่มีเงื่อนไข ด้วยกฎหมายฟอกเงิน”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน