เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชนและนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปนมัสการพระธาตุโยนกนคร บนเกาะแม่หม้าย หรือเวียงหนองหล่ม ที่มีตำนานกว่า 1,000 ปี ภายในวัดป่าหมากหน่อ ม.9 ต.จันจว้า อ.แม่จัน จ.เชียงราย ต่างพากันแวะเวียนเข้าไปชมจอมปลวกที่มีความแปลกประหลาด ซึ่งผุดขึ้นจากผิวดินบริเวณใต้ถุนของศาลเจ้าแม่กวนอิมภายในวัดดังกล่าว
โดยจอมปลวกนี้มีลักษณะดินที่ผุดขึ้นมาเป็นช่อหรือกิ่ง โดยไม่เป็นก้อนดินที่ทับถมกันตามปกติเหมือนจอมปลวกทั่วไป นอกจากนี้ จอมปลวกที่ผุดขึ้นมาใหม่ก็มีลักษณะเป็นกิ่งก้านเหมือนกันหมดจนแผ่ไปทั่วบริเวณใต้ถุนของศาลดังกล่าว ซึ่งสร้างเป็นคอนกรีตชั้นเดียวยกพื้นสูงประมาณ 1.50 เมตร
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า หลังจากมีผู้คนไปมุงดูกันมากขึ้น ทางวัดได้มีการนำเอาตะแกรงเหล็กกั้นเพื่อไม่ให้ผู้คนมุดเข้าไปใต้ถุนศาลเจ้าแม่กวนอิม แต่ก็เหลือช่องไว้ให้ได้ชมและถ่ายภาพกันอย่างชัดเจนเหมือนเดิม ขณะที่จอมปลวกได้ผุดขึ้นมาแผ่อาณาบริเวณกว้างจนเกือบถึงครึ่งพื้นที่ทั้งหมดของใต้ถุนแล้ว แต่กลับไม่สูงขึ้นด้านบน โดยเรียงรายและก่อตัวกันอยู่ในระดับสูงเพียงประมาณ 1 ฟุตแล้วแผ่ออกไปด้านข้างเท่านั้น
พระมหาชัยนันต์ โชติปัญโญ เจ้าอาวาสวัดป่าหมากหน่อ กล่าวว่า ลักษณะของจอมปลวกแปลกประหลาดดังกล่าว มีขึ้นมาได้ประมาณ 1 ปีแล้ว ซึ่งช่วงแรกก็ไม่มีใครทราบ เพราะอาคารคอนกรีตชั้นเดียวยกพื้นสูงดังกล่าว ถูกสร้างมานานหลายปีแล้ว แต่ก็ทราบกันว่าด้านใต้เคยเป็นตอไม้มาก่อนและต่อมามีการนำรูปปั้นพระแม่กวนอิมไปประดิษฐานอยู่ ต่อมาปีก่อนทางวัดมีการพัฒนาด้วยการจะไปติดกระจกหน้าต่างก็พบมีน้ำซึมขึ้นมาใต้ฐานรูปปั้น จึงพากันไปดูด้านใต้ก็พบจอมปลวกขึ้นเรียงรายกันดังกล่าว โดยเป็นจอมปลวกที่สามารถมองแล้วจินตนาการว่าเหมือนสิ่งต่างๆ ได้หลากหลาย ซึ่งชาวบ้านบางคนบอกเหมือนปะการังในทะลอย่างมาก บางคนบอกเหมือนดอกไม้ ช่อฟ้าและมีไปถึงบอกว่าเหมือนพญานาคก็มี
พระมหาชัยนันต์ กล่าวอีกว่า หลังจากพบจอมปลวกก็พากันตั้งชื่อว่า วังพญาจอมปลวกเพราะแตกต่างกับจอมปลวกทั่วไป และทำการกั้นพื้นที่ให้เรียบร้อยเพื่อไม่ให้ได้รับความกระทบกระเทือน เนื่องจากหลังทราบข่าวก็มีผู้คนพากันไปมุงดูแล้วตีความไปต่างๆ นานากันไม่ขาดสาย ส่วนทางวัดก็ไม่รู้ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่ก็ไม่ทำลายเพราะถือว่าเป็นสัตว์ร่วมโลกด้วยกัน จึงต้องเมตตาอยู่ร่วมกันจนกว่าจะหายไปเอง
พระมหาชัยนันต์ กล่าวต่อว่า คาดว่าในวันจัดพิธีพุทธาภิเษกพระพุทธรูปปางมหาจักรพรรดิ์ในวันที่ 18-19 ธ.ค.นี้ และงานปริวาสกรรม ซึ่งจะมีญาติโยมและผู้คนตามพระสงฆ์ สามเณรและบวชีพราหมณ์ไปปฏิบัติธรรมในวันที่ 23 ธ.ค.-1 ม.ค.นี้ จะมีผู้คนไปกันมากขึ้น ทางวัดจึงจัดสถานที่ให้พร้อมและมีพระเณรคอยให้คำแนะนำต่างๆ เพื่อให้เข้าชมได้โดยสะดวกและไม่มีผลกระทบต่อสัตว์โลกแล้ว
