ทหารกองกำลังเทพสตรี สกัดจับ แรงงานพม่า หนีเข้าเมือง เผยเป้าหมาย กทม.-สมุทรสาคร แฉค่านายหน้าพุ่ง 1.9 หมื่น จากเดิมก่อนโควิดระบาดแค่หมื่นเดียว

วันที่ 25 ต.ค.64 พ.อ.ภูมิพัฒน์ บุญเรืองขาว ผบ.ฉก.ร.25 ได้รับรายงานจากสายข่าวว่า จะมีขบวนการลักลอบขนแรงงานชาวเมียนมาจำนวนมาก เข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ผ่านลำน้ำกระบุรี ชายแดนด้านจังหวัดระนอง จึงสั่งการให้ ทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 25 กองกำลังเทพสตรี นำกำลังพลเข้าทำการซุ่มพราง ในจุดสำคัญต่างๆ ของอำเภอกระบุรี และอำเภอละอุ่น ซึ่งมีแนวชายแดนตามธรรมชาติ เพื่อป้องกันการลักลอบเข้าพื้นที่ชั้นใน

ในเวลาต่อมา กำลังพลซุ่มเฝ้าตรวจยังบริเวณเส้นทางพื้นที่ต้องสงสัยต่างๆ ที่คาดว่าจะใช้เป็นเส้นทางลักลอบขนคนแรงงาน เมื่อถึงเวลามี รถจักรยานยนต์ 4 คัน ใช้นำทางตรวจสอบเส้นทาง และรถยนต์กระบะสำหรับขนแรงงาน 4 คัน ขับติดตามกันมา ตามถนนสายรอง เส้นทางบ้านพรุตาโรย ต.บางแก้ว อ.ละอุ่น จ.ระนอง กับ บ้านในหุบ ต.เขาค่าย อ.สวี จ.ชุมพร เจ้าหน้าที่ปะจำจุดที่ บ้านพรุตาโรย ต.บางแก้ว อ.ละอุ่น จ.ระนอง

จึงส่งสัญญาณไฟกระพริบให้รถดังกล่าวหยุดเพื่อขอตรวจสอบ ปรากฏว่า เจ้าหน้าที่สามารถสกัดรถยนต์ไว้ได้ 2 คัน และรถจักรยานยนต์ 1 คัน แต่มีรถยนต์กระบะที่บรรทุกแรงงานไม่ทราบจำนวน อีก 2 คัน และรถจักรยานยนต์อีก 3 คัน สามารถขับหลบหนีการจับกุมไปได้

ตรวจสอบในรถกระบะ ที่สกัดจับได้ พบผู้นำพาชาวไทย จำนวน 3 คน ทราบชื่อ นายจตุพล (สงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี , นายธีรพงษ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี , นายธงไชย (สงวนนามสกุล) อายุ 23 ปี ซึ่งให้การยอมรับสารภาพว่า ได้ลักลอบช่วยเหลือนำพาชาวเมียนมา ทั้ง 44 คนจริง และพบแรงงานชาวเมียนมา 44 คน แยกเป็นชาย 35 คน และ หญิง 9 คน นั่งอัดแน่นกันมาภายในรถกระบะทั้ง 2 คัน

สอบสวนเบื้องต้น พบว่าแรงงานชาวเมียนมา ทั้ง 44 ราย เดินทางมาจาก เมืองเมาะละแหม่ง ภาคตะนาวศรี,เมืองยะไข่ และเมืองย่างกุ้ง,เเละเมืองทวาย ประเทศเมียนมา โดยมีเป้าหมายการเดินทางหลบหนีเข้ามาทำงานในพื้นที่ กทม. จ.สมุทรสาคร เเละบางส่วนจะลงมาทำงานที่ จังหวัดทางภาคใต้ของไทย

โดยมีเส้นทางการเดินทางมาจากประเทศเมียนมาก่อนจะมาแยกย้ายกันพัก ใน 3 หมู่บ้าน คือ บ้านหมาราง ,บ้านทุ่งปรี๊ด และ บ้านตะเภาทรุด ต.หมาราง กิ่ง อ.เขม่าจี จ.เกาะสอง ประเทศเมียนมา ซึ่งอยู่ตรงกันข้ามกับ อ.กระบุรี จ.ระนอง ประมาณ 2 สัปดาห์ เมื่อรวบรวมแรงงานได้เป็นจำนวนมากพอ

จากนั้นจึงส่งข้ามมายังฝั่งประเทศไทยด้วยเรือหางยาง จำนวน 3 ลำ เพื่อมาขึ้นที่บริเวณ บ้านดอนสวะ ม.7 ต.มะมุ อ.กระบุรี จ.ระนอง โดยจะมีรถของนายหน้ารถมารอรับ ก่อนจะนำพาเข้าพื้นที่ชั้นใน

โดยใช้เส้นทางสายรองภายในหมู่บ้าน ในเวลากลางคืน เพื่อหลบหนีสายตาของผู้คน และการจับกุมจากเจ้าหน้าที่ มีการใช้รถจักรยานยนต์ในการตรวจสอบเส้นทาง พร้อมนำทางหลบหลีกเข้าไปตามสวนป่ายางพารา และเส้นทางตามหุบเขา ที่จะข้ามไปยังจังหวัดชุมพร

โดยการเดินทางครั้งนี้ แรงงานชาวเมียนมา ที่หลบหนีจะต้องเสียค่าใช่จ่ายให้กับขบวนการลักลอบนำพาข้ามประเทศ ทั้งชาวเมียนมา และชาวไทย คนละ 19,000 บาท จากเดิมในอดีต ก่อนการแพร่ระบาดของโรค โควิด-19 รายละไม่ถึง 10,000 บาท

สำหรับการจับกุมในครั้งนี้หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 25 ได้คัดกรองตามมาตรการป้องกันโควิด-19 ให้กับชาวเมียนมา และปฏิบัติตามหลักมนุษยธรรม ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมด พร้อมของกลางรถกระบะ อีซูซุ ดีแม็ค แบบ 4 ประตู สีดำคลุมทับด้วผ้าใบสีดำ ,รถกระบะ อีซูซุ ดีแม็ค แบบ 4 ประตู เสริมหลังคาแครี่บอย สีบรอนด์เทา และจักรยานยนต์ เวฟ 125 สีเขียว 1 คัน ส่ง สภ.บางแก้ว จ.ระนอง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน