โรงงานสับปะรดกระป๋อง ประจวบคีรีขันธ์ จี้ภาครัฐเปิดนำเข้า แรงงานพม่าถูกกฎหมาย หลังขาดแคลนคนมา 2 ปี ใกล้พังทั้งระบบ อีกทั้งปัญหา ลอบเข้าไทยยิ่งพุ่ง

เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2564 นายพีระ สุกิจปาณีนิจ อดีตนายกอบต.ไร่เก่า อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ในฐานะเครือข่ายโรงงานสับปะรดกระป๋อง เกษตรกรชาวไร่สับปะรดรายใหญ่ มีโควตาส่งวัตถุดิบให้โรงงานแปรรูปผลิตเพื่อการส่งออกในจังหวัดวันละกว่า 500 ตัน แต่ปัจจุบันส่งวันละไม่เกิน 20 ตัน เพราะแคลนแรงงาน

ทำให้มีผลกระทบกับชาวไร่อย่างหนัก เนื่องจากผลผลิตบางส่วนต้องเน่าเสีย ทำให้สับปะรดควรจะมีราคาสูงถึงกก. ละ 7-8 บาท เหลือกก. ละ 4.50 บาท และมีแนวโน้มลดลง ขณะที่ต้นทุนการผลิต กก.ละ 5.40 บาท สาเหตุมาจากปัจจุบันโรงงานสับปะรดกระป๋องในจังหวัดที่มีมากที่สุดในประเทศ ขาดแคลนแรงงาน แต่ละโรงงานต้องการแรงงานเพิ่มอีก 60%

หลังจาก โควิด-19 ระบาดนานเกือบ 2 ปี แรงงานประเทศเพื่อนบ้านเดินส่วนใหญ่กลับบ้าน และไม่สามารถกลับเข้ามาทำงานได้ตามปกติ จึงขอเรียกร้องให้ภาครัฐเร่ง แก้ปัญหาขาดแคลนแรงงานโดยด่วน หากต้องการจะกระตุ้นยอดการส่งออกของผลิตภัณฑ์สับปะรดกระป๋อง ซึ่งตลาดต่างประเทศมีความต้องการสินค้าสูงมาก

“รัฐบาลควรพิจารณาเปิดด่านสิงขร อนุญาตให้แรงงานต่างด้าวเข้ามาทำงานได้ ภายใต้มาตรการควบคุมโรคของกระทรวงสาธารณสุข มีการขึ้นทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมาย ดีกว่าปล่อยให้มีปัญหาลักลอบผ่านแดนแอบเข้ามาตามช่องทางธรรมชาติ

ทำให้ขบวนการค้ามนุษย์มีผลประโยชน์สูงมาก ที่ผ่านมารัฐบาลต้องจ่ายค่าเลี้ยงดูแรงงานเถื่อนหัวละไม่ต่ำกว่า 8,000 บาท ต่อคน เมื่อกักตัวครบ 14 วัน ก็ต้องส่งกลับต่างประเทศ แต่สุดท้ายพบว่ามีการลักลอบกลับเข้ามาอีกในช่องทางเดิม” นายพีระ กล่าว

นายพีระ กล่าวต่อว่า ขอให้รัฐบาลอนุญาตให้แรงงานต่างด้าวที่ต้องการทำงานติดต่อนายจ้าง เมื่อเข้ามาแล้ว ต้องกักตัวควบคุมโรค โดยใช้พื้นที่ของโรงงานที่ประสงค์รับแรงงานต่างด้าว จัดสถานที่กักโรค มีอาหารครบ 3 มื้อ ส่วนค่าใช้จ่ายนายจ้าง แรงงาน และภาครัฐต้องร่วมกันรับผิดชอบ จะแก้ปัญหาได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน