บุคลากรทางการแพทย์ รพ.ขอนแก่น ยื่นหนังสือให้ตรวจสอบการสั่งซื้อชุดตรวจ เอทีเค ระบุ ไม่พบเรื่องเสนอซื้อ พร้อมเคลือบแคลงใจการบริหารงานผิดปกติหลายเรื่อง
วันที่ 3 พ.ย.2564 ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น พญ.จรรยาภรณ์ รัตน์โกศล ประธานคณะกรรมการควบคุมภายในรับแจ้งเรื่องศูนย์ป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ รพ.ขอนแก่น พร้อมบุคลากรทางการแพทย์ เดินทางยื่นหนังสือร้องเรียนกับ นพ.ภาคี ทรัพย์พิพัฒน์ นายแพทย์ สสจ.ขอนแก่น ให้ตรวจสอบการบริหารงานของผอ.รพ.ขอนแก่น
พญ.จรรยาภรณ์ ระบุว่า ตลอด 1 เดือนที่ผอ.เข้ามาบริหารงาน หลายประเด็นไม่ปฏิบัติตามธรรมเนียมที่เคยทำกันมา ดำเนินการข้ามขั้นตอน จนทำให้บุคลากรทางการแพทย์หลายคนมีความเคลือบแคลงสงสัย จึงได้มีการประชุมคณะกรรมการรพ.จนมีมติร่วมกันว่า จะยื่นหนังสือให้ตรวจสอบการบริหารงานของผอ.รพ.ขอนแก่น
โดยมี 4 ประเด็นหลักให้ตรวจสอบ คือ การจัดซื้อจัดจ้างที่ไม่ถูกระเบียบ ตามขั้นตอนพัสดุ โดยเฉพาะการจัดซื้อชุดตรวจเอทีเค ไม่มีเรื่องเสนอซื้อ ไม่มีการออกใบสั่งของของ รพ.ไม่มีการสืบและต่อรองราคา การจัดซื้อจะอ้างสถานการณ์ฉุกเฉินตามหนังสือฉบับ ว.115 ว่าสามารถซื้อของเฉพาะเจาะจงบริษัทได้ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ตามระเบียบการจัดซื้อจะต้องมีความเหมาะสมกับสถานการณ์ว่ามีความจำเป็นเร่งด่วนจริงหรือไม่
“จากการตรวจสอบ พบว่าบริษัทที่ ผอ.จัดซื้อชุดตรวจเอทีเคนั้น เป็นบริษัทที่องค์การเภสัชไม่เห็นด้วยจนองค์การเภสัชดำเนินนการฟ้อง ปปช. ให้ตรวจสอบ และดำเนินคดีกับ นพ.เกรียงศักดิ์ นอกจากนี้ ในระยะนี้พบว่ามีการจัดซื้อเป็นจำนวนมาก ที่เป็นลักษณะของการสั่งการ มากกว่าการปฏิบัติตามกฎของราชการ ซึ่งอาจจะส่งผลเสียหายกับทางราชการได้ การจัดซื้อจัดจ้างที่ต้องใช้งบประมาณมาก ต้องผ่านคณะกรรมการตรวจสอบให้พิจารณาร่วมกัน ไม่ใช่ให้เกิดการสั่งการซื้อเพียงคนเดียว”
พญ.จรรยาภรณ์ กล่าวต่อว่า ส่วนด้านการบริหารงานพบว่า ได้สั่งการให้ตรวจโควิด-19 โดยวิธีพีซีอาร์ 3,000 รายต่อวัน แต่ในความเป็นจริงนั้นเนี่ยทำได้เหมือนกัน 600 รายต่อวันเท่านั้น แต่ ผอ.มีนโยบาย 3,000 คนต่อวัน ต้องมีตัวเลขอ้างอิง ทางผู้ปฎิบัติได้ทำข้อมูลนำเสนอแล้ว การตัดสินใจของผู้อำนวยการ ให้ศึกษาข้อมูล รวมทั้งขอให้กรรมการ บุคลากรทางการแพทย์ มีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นด้วย
” บุคลากรทางการแพทย์ยืนยันว่า สามารถร่วมงานได้กับผอ.ทุกคน ขอให้ผู้บริหารมีธรรมาภิบาล แต่1 เดือนที่ผ่านมาเห็นว่าการบริหารงานได้สร้างความเคลือบแคลงสงสัยให้เกิดขึ้น หลายเรื่องดำเนินการไม่ผ่านระบบขั้นตอน ทำให้กระทรวงสาธารณสุขตีกลับ สร้างความเสียหายให้กับรพ.”
ด้านนพ.ภาคี กล่าวว่า หลังจากรับหนังสือร้องเรียนแล้ว จะได้ดำเนินการเรียกผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามา สอบถามรายละเอียด พร้อมทั้งให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย
