หนุ่มครูอัตราจ้าง ร้องเสียเงินเองฉีดวัคซีนซิโนฟาร์มฉีดเข็ม 2 ที่รพ.เอกชน เกิดอาการข้างเคียงเส้นเลือดสมองอุดตัน เป็นอัมพาตครึ่งซีก ประกัน 3 หมื่นไม่พอค่ารักษา กลัวตกงาน ครอบครัวเดือดร้อน
วันที่ 5 พ.ย.2564 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก นายกฤษณะ สำราญอยู่ อายุ 27 ปี ครูอัตราจ้าง วิชาดนตรี โรงเรียนในพื้นที่ ต.สมอแข อ.เมือง จ.พิษณุโลก ขอความเป็นธรรมระบุไปฉีดวัคซีนซิโนฟาร์มจากโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง แล้วเกิดอาการข้างเคียงเป็นอัมพาตแขนขาด้านซ้ายไม่มีแรง แพทย์วินิจฉัยเกิดจากเส้นเลือดในสมองอุดตัน
นายกฤษณะ เปิดเผยว่า วันที่ 29 ก.ย.ที่ผ่านมา เข้ารับการฉีดวัคซีนซิโนฟาร์มเข็ม 2 ที่รพ.เอกชน หลังสั่งจองซื้อไว้ในราคา 1,500 บาท หลังฉีดเพียง 15 นาทีมีอาการใจสั่น จากนั้นรอดูอาการประมาณ 4 ชั่วโมง เกิดอาการแขนขาชา มือซ้ายสั่น ขณะเดินมีอาการหน้ามืดล้มศีรษะกระแทกพื้นนอนรักษาตัว 1 วัน วันรุ่งขึ้นยังมีอาการมึนศีรษะ เหนื่อย หายใจขัด ตัวสั่น แพทย์รักษาจนอาการดีขึ้นแล้วให้กลับบ้าน จากนั้นวันที่ 12 ต.ค.เกิดอาการหน้ามืดวูบฟุบลงไปอีกครั้ง ลุงซึ่งพิการขาท่อนล่างไม่สามารถช่วยเหลือได้โทรเรียก 1669 จากนั้นมีรถรพ.วังทองมารับ แพทย์ตรวจวินิจฉัยเส้นเลือดในสมองอุดตัน ทำให้เป็นอัมพาตครึ่งซีก แล้วให้ยาสลายลิ่มเลือดและทำกายภาพบำบัดจนอาการเริ่มดีขึ้นสามารถเดินได้ แต่ยังไม่เป็นปกติ 100%
“รพ.วังทอง ส่งตัวรักษาต่อที่รพ.พุทธชินราช จนอาการดีขึ้น พร้อมทำเรื่องส่งไปยัง สปสช. ว่าป่วยจากวัคซีน ทางสปสช เขต 2 พิษณุโลก ระบุว่า การชดเชยเยียวยาผลกระทบจากการฉีดวัคซีนนั้น ไม่ครอบคลุมจากการไปฉีดที่รพ.เอกชน ซึ่งรพ.เอกชนมีการประกันวัคซีนให้อยู่แล้ว เมื่อนำเรื่องไปสอบถามรพ.เอกชน ได้แจ้งอนุมัติเงินประกัน 3 หมื่นบาท ก่อนหน้านี้รักษาไปแล้ว 2 หมื่นบาทเหลืออีก 1 หมื่นบาท แต่ไม่สามารถรักษาต่อได้เนื่องจากวงเงิน 1 หมื่นบาทไม่พอสำหรับค่ารักษาจนหายดี ทำให้รู้สึกกังวลผลข้างเคียงจากวัคซีนอาจทำให้กลายเป็นผู้พิการ และกลัวว่าอาจถูกเลิกจ้างจากการเป็นครูอัตราจ้างวิชาดนตรีด้วย”
นายกฤษณะ กล่าวต่อว่า ต้องการให้รพ.เอกชนรับผิดชอบการรักษาต่อให้หายขาด และทำเรื่องเงินประกันวัคซีนเพิ่มขึ้น เนื่องจากตนได้รับผลกระทบ ทำให้ร่างกายไม่ปกติสมบูรณ์หากมีการรักษาล่าช้าวันนี้อาจกลายเป็นผู้พิการ วันนี้ยังสามารถเดินได้แต่ร่างกายฝั่งซีกซ้ายยังทำงานได้ไม่เต็มที่ อยากฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกระทรวงสาธารณสุข และ รัฐบาล ด้วยความที่ตนเป็นครูจำเป็นต้องฉีดวัคซีนจากรพ.เอกชน เพื่อรองรับการเปิดการเรียนการสอนให้ทัน ยอมจ่ายเงิน 1,500 บาท เพราะไม่สามารถรอวัคซีนที่ลงทะเบียนได้ แต่เมื่อตนมีอาการข้างเคียงจากวัคซีนกลับไม่ได้รับการดูแลเท่าที่ควร
” นอกจากนี้หลังจากโรงเรียนเปิดเรียนมาแล้ว 1 สัปดาห์ ผมยังไม่ได้ไปสอนนักเรียน เพราะเกรงว่าอาจมีผลกระทบ หวั่นเกรงมีผลต่อหน้าที่การทำงาน และไม่มีเงินรักษาต่อเนื่อง อาชีพครูอัตราจ้างมีเงินเดือนเพียง 6,000 บาทเท่านั้น นอกจากนี้ผมยังอาศัยกับลุงซึ่งพิการท่อนล่างไม่มีขาทั้งสองข้าง หากต้องมาพิการอีกคน และไม่มีอาชีพครอบครัวคงลำบากและเดือดร้อนอย่างมาก “
