ชนสนั่น 5 คันรวดทางขึ้นเขาค้อ กระบะป้ายแดงแตะเบรก หลบรถรอยูเทิร์น รถตามหลังเบรกไม่ทันเสยท้าย เก๋งมุดใต้ท้องปิกอัพ พังยับทั้งคัน ด.ช.2ขวบเจ็บ

เมื่อวันที่ 28 พ.ย.64 พ.ต.ท.วิชาญ อาบสุวรรณ พนักงานสอบสวน ปฏิบัติหน้าที่สารวัตรเวร สภ.ท่าพล ต.ท่าพล อ.เมืองเพชรบูรณ์ รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์ชนกันหลายคันที่ถนนสระบุรี-หล่มสัก ฝั่งขาขึ้น บริเวณจุดกลับรถใกล้กับทางแยกขึ้นเขาค้อ หมู่ที่ 3 ต.นางั่ว อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ จึงเดินทางไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบรถยนต์ชนกันหลายคัน โดยคันแรกเป็นรถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนเงิน ทะเบียนป้ายแดง ก 5026 พระนครศรีอยุธยา โดยกระบะท้ายมีรอยถูกชนจนยุบไปเล็กน้อย คันที่ 2 เป็นรถกระบะ ยี่ห้อมาสด้า สีดำ ทะเบียน กธ 4633 สุพรรณบุรี ด้านหน้าและท้ายได้รับความเสียหาย คันที่ 3 เป็นรถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีดำ ทะเบียน บล 5689 เพชรบูรณ์ ด้านหน้าและด้านท้ายพังเสียหาย

โดยที่มีรถยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า สีบรอนเงิน ทะเบียน ศธ 4810 กรุงเทพมหานคร มุดอยู่ใต้ท้องรถ สภาพพังเสียหายยับเยิน และคันที่ 5 เป็นรถกระบะ ยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนเงิน ทะเบียน บล 2490 พิษณุโลก ลักษณะเป็นรถส่งสินค้า สภาพด้านหน้าพังเสียหายยับเยิน และพบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บเพียง 1 ราย เป็นเด็กชายวัย 2 ขวบ ซึ่งโดยสารมากับรถรถยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า คันที่มุดอยู่ใต้ท้องรถกระบะ จึงนำตัวส่งโรงพยาบาลเพชรบูรณ์ พบว่าไม่ได้รับบาดเจ็บรุนแรงแต่อย่างใด ซึ่งขณะนี้แพทย์ให้กลับบ้านแล้ว

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่ารถทั้ง 5 คันขับมาในช่องทางการจราจรด้านขวา เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นทางลงเนิน ประกอบกับเป็นจุดกลับรถปรากฏว่ามีรถรอกลับรถอยู่เป็นจำนวนมาก และเลยมาอยู่ในช่องจราจรด้านขวา จึงทำให้รถกระบะ อีซูซุ สีบรอนเงิน ทะเบียนป้ายแดง

มีนายธนกร แซ่จึง อายุ 34 ปี ชาว ต.พญาวัง อ.บึงสามพัน เป็นคนขับแตะเบรก จึงทำให้รถกระบะมาสด้า สีดำ ซึ่งมีนายประดิษฐ์ กรอบมุข อายุ 52 ปี ชาวจังหวัดสุพรรณบุรี กำลังจะพาครอบครัวไปไหว้พระที่วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว ซึ่งอาจจะมาด้วยความเร็วหรือกระชั้นชิดเบรกไม่ทัน จึงชนท้ายรถคันหน้า

อีกทั้งรถกระบะอีซูซุ สีดำ ทะเบียน บล 5689 เพชรบูรณ์ ซึ่งขับโดยน.ส.ศกุนตรา เชื้อในเขา อายุ 36 ปี ชาว ต.สักหลง อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งขับตามมาจึงเยียบเบรกจนท้ายรถยกขึ้น เป็นจังหวะเดียวกันกับรถยนต์ ฮอนด้า ซึ่งขับโดย ว่าที่ร้อยตรีอมร ละองงศรี อายุ 45 ปี ชาว ต.บุ่งคล้า อ.หล่มสัก ขับตามมาจึงพุ่งเข้าเสียบเข้าไปด้านท้ายรถกระบะ

ประกอบกับรถกระบะ โตโยต้า สีบรอนเงิน มีนายชัยวัฒน์ แสงศิริ อายุ 20 ปี ชาวจังหวัดพิษณุโลกขับตามมา จึงชนท้ายรถยนต์ส่งให้รถยนต์เข้าไปอยู่ใต้รถกระบะ แต่อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สอบสวน เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป

นายธนกร แซ่จึง อายุ 34 ปี ชาว ต.พญาวัง อ.บึงสามพัน คนขับรถคันแรก เปิดเผยว่า ตนเพิ่งออกรถใหม่มาเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา และยังไม่ได้ขับออกต่างจังหวัดเลย ในวันนี้หลังภรรยาลงคะแนนเลือกตั้ง อบต.ที่ ต.พญาวัง อ.บึงสามพันเสร็จแล้ว ตนก็จะไปลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง อบต.ที่บ้านเกิด จ.อุดรธานี

โดยพาภรรยาและลูกๆ ไปด้วย เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ ตนขับรถอยู่ช่องทางด้านขวา ซึ่งขณะนั้นมีรถบนท้องถนนค่อนข้างเยอะ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นทางลงเนิน และเป็นจุดกลับรถ ปรากฏว่ามีรถรอยูเทิร์นจำนวนมาก จนกินเข้ามาในช่องที่ตนขับอยู่ ตนจึงแตะเบรกและรู้สึกว่ารถถูกชนท้าย จึงมองกระจกหลังก็พบว่ามีการชนกันอีกหลายคัน

ตอนแรกตนคิดว่ารถกระบะที่อยู่บนรถเก๋งเป็นรถสิบล้อ เพราะอยู่สูงกว่ารถปกติทั่วไปมาก หลังจากนั้นตนจึงรีบพาภรรยาและลูกๆ ออกมาจากรถ พบว่าไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ แต่มาเสียความรู้สึกที่รถเพิ่งออกมาไม่กี่วัน ก็ถูกชนท้าย จนได้รับความเสียหายเสียแล้ว

ด้าน น.ส.วริษฐา สุขมา อายุ 43 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ เปิดเผยว่า ตนกำลังนั่งทำงานอยู่หน้าร้าน ได้ยินเสียงรถเบรกถึงหันไปดู ก็พบว่ารถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนเงิน ทะเบียนป้ายแดง เบรกจากนั้นรถคันที่ขับตามมาก็ได้ชนกันจนเสียงดังสนั่น

โดยเหตุการณ์เหมือนยังกับในภาพยนตร์ โดยเฉพาะรถยนต์เก๋งที่มุดไปอยู่ใต้รถกระบะนั้นในตอนแรกตนคิดว่าน่าจะเจ็บหนักหรือไม่ก็เสียชีวิต แต่ก็ปรากฏว่ามีผู้ชายคนขับมุดออกมาก่อน จากนั้นผู้หญิงก็กอดเด็กและมุดออกมา โดยไม่มีใครได้รับบาดเจ็บเลย มีเพียงเด็กชายวัย 2 ขวบเท่านั้น ที่ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย

น.ส.วริษฐา กล่าวต่อว่า จุดดังกล่าวเกิดอุบัติเหตุบ่อยมาก เพราะเป็นจุดลงเนินและเป็นจุดอับประกอบกับเป็นทางแยกลงมาเขาค้อ รวมทั้งมีทางกลับรถอยู่ใกล้กับบริเวณแยกแห่งนี้ด้วย จึงอยากวอนเจ้าหน้าที่ว่าในช่วงเทศกาลหรือวันหยุด น่าจะมีเจ้าหน้าที่มาคอยอำนวยความสะดวก หรือไม่ก็นำสัญลักษณ์อะไรก็ได้มาติดตั้งไว้ เพื่อให้ลดความเร็วหรือใช้ความระมัดระวังในจุดนี้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน